เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 21 พฤษภาคม2562 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางสาวอุษา วงศ์ไว ผู้ปกครองของเด็กหญิงวัย 4 ขวบ อาศัยอยู่แคมป์คนงานก่อสร้าง หลังหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่ง ติดกับศาลเจ้ากลางคลองบางโพธิ์ใต้ พื้นที่ ม.4 ต.บางเดื่อ อ.เมือง จ.ปทุมธานี ว่า เมื่อวันที่ 16 พ.ค.62 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 13.00 น. ลูกสาววิ่งเล่นกับเพื่อน ๆ 3-4 คน อยู่บริเวณแคมป์คนงานก่อสร้าง ได้มีรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน สีบรอนซ์เงิน ต่อเติมหลังคาแครี่บอยด้านหลัง ลักษณะคล้ายรถส่งสินค้า ขับเข้ามาวนเวียนแคมป์คนงาน
ต่อมาผู้ชาย 3 คน ลงมาพูดคุยกับลูกของตน ชายคนหนึ่งคนหนึ่งทำทีไปซื้อน้ำอัดลมที่ร้านค้าใกล้จุดที่เด็กวิ่งเล่น เหมือนดูต้นทาง ส่วน 2 คนที่เหลือ พอสบโอกาสก็ใช้ยาป้ายจมูกลูกสาวของตนคือเด็กหญิงรัชนี วงศ์ไช หรือน้องไอซ์ อายุ 4 ขวบ จนทำให้มีอาการสลึมสลือก่อนจะสลบไป จากนั้นเพื่อนของลูกสาววิ่งมาบอก ตนจึงวิ่งออกไปดู เห็นชายทั้ง 3 คน ตกใจแล้วรีบวิ่งขึ้นรถขับออกไปจากพื้นที่อย่างรวดเร็ว
นางสาวอุษา กล่าวต่อว่า หลังจากชายแปลกหน้าหนีไป ได้พาลูกสาวไปโรงพยาบาล ซึ่งนอนสลบไม่รู้สึกตัว 2 วัน 1 คืน โดยหมอได้ทำการตรวจหาสารที่นำมาป้ายจมูก ตนเชื่อว่าเป็นแก๊งลักพาตัวเด็ก โดยตระเวนก่อเหตุตามสถานที่ต่างๆ จึงแจ้งความลงบันทึกประจําวันไว้ที่ สภ.เมืองปทุมธานี ซึ่งตำรวจยังไม่ได้ลงพื้นที่มาสอบปากคำแต่อย่างใด พร้อมพูดกับตนว่า "คุณรู้ได้ยังไงว่าเป็นแก๊งลักเด็ก ถ้าไม่ใช่เขาจะเสียหาย" แล้วหากเด็กถูกลักพาตัวไปจริง ๆ จะทำอย่างไร
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามตัวแก๊งดังกล่าว หวั่นว่าจะไปก่อเหตุซ้ำอีก นับว่าโชคดีที่ผู้ปกครองของเด็กมาเจอเตือนผู้ปกครองให้ระมัดระวังอย่าละสายตาปล่อยบุตรหลานให้อยู่ลำพังด้านนางเวียง เขียนสีอ่อน อายุ 56 ปี แม่ค้าขายสินค้าโชว์ห่วยบอกว่า วันเกิดเหตุก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะไปก่อเหตุได้มาแวะที่ร้านตนเอง โดยคนร้ายเดินลงมา 1 คน โดยชายคนที่ลงมานั้นอายุประมาณ 60 ปีสวมเสื้อเหลือง กางเกงยีนขายาวหน้าตาน่ากลัวโดยลงมาจากรถยนต์กระบะสีบรอนด์ และมาทำทีขายสินค้าเงินผ่อนแต่ตนเองไม่สนใจ คนร้ายจึงเดินหน้าไปด้านในคือจุดเกิดเหตุที่ป้ายยาน้องไอซ์
พ.ต.อ.พีรพล โชติกเสถียร ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี เปิดเผยว่า ได้ให้กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของสภ.เมืองปทุมธานีได้ลงพื้นที่เก็บภาพจากกล้องวงจรปิดและสอบปากคำพยานเพิ่มเติม เพื่อหาเบาะแสของผู้ต้องสงสัยเพื่อเชิญตัวมาสอบปากคำ หากพบเพื่อพิสูจน์ทราบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย