"บุญทักษ์" ปัดตัวเต็ง รมว.คลัง

จากกระแสข่าวกระทรวงหลักๆต้องเป็นของพลังประชารัฐเท่านั้น ไม่ว่าจะด้าน "เศรษฐกิจ" หรือ "ความมั่นคง" ซึ่งในมุมของเศรษฐกิจแล้ว กระทรวงที่คน "จับตา" มากสุด คือ "กระทรวงการคลัง" เพราะเปรียบเหมือน "กระเป๋าตังค์" ของประเทศ ดังนั้นคนที่จะมานั่งในตำแหน่ง "รัฐมนตรีว่าการ"หรือ "รมว.คลัง" นอกจากจะต้องเป็นคนที่เก่ง มีความรู้ความสามารถด้านการเงินการคลังแล้ว ยังต้องเป็นคนที่ "แข็ง" และยึดมั่นผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติเป็นหลัก
ซึ่งขณะนี้มี 3 รายชื่อ ที่เป็นแคนดิเดตรมว.คลังของรัฐบาลใหม่ที่เตรียมจัดตั้งขึ้นคนแรก คือ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม อุตตม สาวนายน ที่ว่ากันว่า เป็นรายชื่อที่รองนายกรัฐมนตรี สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ส่งเข้าประกวด
คนที่สอง คือ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ /อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กอบศักดิ์ ภูตระกูล ที่ว่ากันว่าเป็นอีกรายชื่อที่รองนายกสมคิดส่งเข้าประกวด หลังมีข่าวว่า หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐอไม่อยากรับตำแหน่งนี้
กอบศักดิ์ นับเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถด้านการเงินการคลังมากสุด เขาจบการศึกษาระดับปริญญาเอกจาก Massachusetts Institute of Technology ด้านเศรษฐศาสตร์มหภาค และเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ ส่วนปริญญาตรี จบด้านคณิตศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ ที่ Williams College ประเทศสหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้เขายังเคยผ่านงานสำคัญจากองค์กรระดับประเทศทั้ง ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) โดยเป็นผู้บริหารส่วนกลยุทธ์นโยบายการเงิน สายนโยบายการเงิน และยังเคยถูก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ยืมตัวไปช่วยงานในตำแหน่งผู้บริหารสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ดูแลฝ่ายพัฒนากลยุทธ์ จึงมีความเข้าใจด้านเศรษฐกิจมหภาค ตลาดเงิน ตลาดทุน เป็นอย่างดี
คนสุดท้าย ซึ่งเป็นรายชื่อที่มาแรงสุดในเวลานี้ คือ "บุญทักษ์ หวังเจริญ" อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร(ซีอีโอ) ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ "ทีเอ็มบี" ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและว่ากันว่าเป็นบุคคลที่ พล.อ.ประยุทธ์ ส่งเข้าชิงตำแหน่งรมว.คลังด้วยตัวเอง
แต่เมื่อทีมข่าวเศรษฐกิจเนชั่นทีวีติดต่อไปสัมภาษณ์ เจ้าตัวรีบปฏิเสธว่าไม่เคยรู้ข่าวมาก่อน และไม่สะดวกให้ข้อมูลในตอนนี้ พร้อมกับยืนยันว่ายังไม่มีใครทาบทามหรือสอบถามเกี่ยวกับเก้าอี้ รมว.คลังแต่อย่างใด
ทั้งนี้ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร(ซีอีโอ) ธนาคารทหารไทย คนนี้ ถือเป็นผู้ที่เข้ามา "ผ่าตัดใหญ่" ในทีเอ็มบี พลิกฐานะการเงินจากแบงก์ที่เคยขาดทุนเป็นแสนล้านให้ มีกำไร ทั้งยังเป็นนายแบงก์คนแรกๆ ที่ดึงเทคโนโลยีเข้ามาช่วยขับเคลื่อนองค์กร ตั้งแต่สมัยที่ฟินเทค ยังไม่เข้ามาโจมตี เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในวงการสถาบันการเงิน เปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรโดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง พร้อมที่จะตอบโจทย์ทุกความต้องการ และยังสร้างปรากฏการณ์ในวงการ ด้วยการเป็น แบงก์แรกที่ยกเว้น "ค่าธรรมเนียม" ไม่ว่าจะเป็น การจ่ายบิล ฝาก ถอน โอนเงิน ฟรีหมด
และคงต้องจับตาดูต่อไปว่า ท้ายที่สุดแล้วจาก3รายชื่อตัวเต็งนั่งเก้าอี้ รมว.คลัง ใครกันแน่จะต้องทำหน้าที่ดูแลกระเป๋าเงินของประเทศ