เมื่อวันที่ 17 พ.ค. เกษตรกรผู้ปลูกอะโวคาโด บ้านรวมไทยพัฒนา 7 ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จ.ตาก และตำบลใกล้เคียง เริ่มผวาหนัก เนื่องจาก ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีแมงอีนูนหรือจีนูน ได้บุกเข้ามากัดกินยอดอ่อนของอะโวคาโด และผลอะโวคาโด ทำให้เสียหายเป็นจำนวนมาก จนทำให้เกษตรกรต้องพลิกวิกฤติมาเป็นโอกาส หันมาจับแมงอีนูน จำหน่ายในราคากีโลกรัมละ 100 บาท เพราะชาวบ้านนิยมนำไปปรุงเป็นอาหาร และสามารถจำหน่ายได้ทุกวัน
นายสมยศ ดีบาง อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่101 หมู่ที่ 3 บ้านรวมไทยพัฒนา 7 ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จ.ตากกล่าวว่า ตนปลูกอะโวคาโด จำนวน 15 ไร่ และ 2 วันที่ผ่านมา ได้มีแมงอีนูน หรือแมงจินูน เข้ามากัดกินยอดอ่อนของอะโวคาโด เสียหายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกัดกินลูกอ่อนของอะโวคาโด ทำให้ผิวอะโวคาโดเสียหาย ขณะที่การปลูกอะโวคาโดโดยไม่ใช้สารเคมีอยู่แล้ว จึงต้อง จับแมงอีนูน ด้วยวิธีธรรมชาติ ไม่ใช่สารเคมีฆ่า ซึ่งมีชาวบ้าน และพ่อค้า มาหาซื้อ กิโลกรัมละ 100 บาท โดยที่ผ่านมา เก็บขายได้ดี.
.
สำหรับแมงอีนูน สามารถทำอาหารได้หลายอย่าง จึงเป็นที่นิยมและมีคนสั่งซื้อ เป็นจำนวนมาก การจับแมงอีนูนทุกครั้ง ต้องจับในช่วงตะวันลับฟ้า หรือช่วงกำลังจะมืด แมงอีนูนจะออกมากัดกินยอดอะโวคาโด ทำให้สามารถจับเอามาขายได้ โดยอุปกรณ์ที่ใช้จับแมงจีนูนก็ไม่ซับซ้อนอะไร คือใช้ภาชนะใส่น้ำ ไฟส่องสว่าง เสื่อ หรือผ้ายางเพื่อเอาไว้รองแมงอีนูนจะออกมากัดกินยอดอ่อนของอะโวคาโดในช่วงหัวค่ำ เมื่อส่องไฟไปที่ต้นไม้ไฟจะสะท้อนปีกสีแดงออกน้ำตาล เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้วก็นำหันไฟทุกดวงส่องลงมา โดยนำภาชนะใส่น้ำมาเตรียมไว้ จากนั้นก็เขย่ากิ่งเบาๆ ทำให้แมงอีนูนตกลงสู่ถังน้ำตามธรรมชาติของแมลง ที่จะบินเข้าหาแสงสว่าง....
.
.
.
.