"ธนาธร" ประกาศ พร้อมเป็นนายกฯ หากรวมเสียงชนะ!!

หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ บอกว่า ก่อนการเลือกตั้งประชาชนมีความหวังอยากจะเห็นสังคมไทยกลับสู่ภาวะปกติอยากจะเห็นประเทศก้าวไปข้างหน้า แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจาก 24 มีนาคม ทำให้ประชาชนสงสัยว่าการเลือกตั้งผ่านมานานแล้วแต่ยังไม่มีความชัดเจน จนความหวังของประชาชนลดน้อยถอยลง ประชาชนหลายฝ่ายปักใจเชื่อไปแล้วว่าพลเอกประยุทธ์จะกลับมาเป็นนายก พรรคอนาคตใหม่จะไม่ยอมให้สังคมไทยเดินหน้าต่อไปอย่างไม่มีความหวัง ซึ่งภารกิจแรกของพรรคอนาคตใหม่คือหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของคสช.จนถึงวันนี้เหลืออีกเพียงไม่กี่วันที่จะมีการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฏรแต่ทุกอย่างก็ยังคงคลุมเครือ

      ด้วยการนี้พรรคอนาคตใหม่ประกาศตัวขออาสาเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้นพรรคอนาคตใหม่จะจัดตั้งรัฐบาลเองหากรวบรวมเสียงได้พร้อมจะเป็นนายก และตนขอประกาศตัวพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี แห่งการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของคสช.พร้อมเปิดรับทุกพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์เดียวกัน อุดมการณ์ที่เชื่อว่าการยุติการสืบทอดอำนาจคือทางเดียวที่จะเป็นทางออกให้กับประเทศได้ เหตุผลที่ตัดสินใจเช่นนี้เพราะพรรคที่ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับที่หนึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้พูดหลายครั้งว่าพร้อมที่จะให้ใครก็ได้มาเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของคสช.อย่างไรก็ตามพรรคอนาคตใหม่ได้แจ้งเจตนานี้ให้กับพรรคบางพรรคที่ร่วมกันลงสัตยาบันให้รับทราบไว้แล้ว หลังจากนี้จะมีการพูดคุยกันและจะเดินทางไปพบพรรคอื่นเช่น ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ชาติพัฒนา เพื่อหารือถึงทิศทางในการจัดตั้งรัฐบาล  ความไม่ชัดเจนเป็นเครื่องมือที่คสช.ใช้เก็บเกี่ยวพรรคอื่นๆเข้าไปร่วมด้วยกัน หากรวมเสียงได้มากพอคาดว่าส.ว.ไม่กล้าที่จะโหวตสวนกับเสียงของประชาชนเพราะทุกวันนี้การได้มาซึ่งส.ว.หมดความน่าเชื่อถือไปมาก     

ส่วนเรื่องที่ล่าสุดวันนี้ กกต.มีมติส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติการเป็นส.ส.ของตนนั้น นาย ธนาธรกล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายกำลังทำเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องเพราะเชื่อว่ากกต.ไม่มีอำนาจที่จะทำเรื่องร้องเรียนนี้ มั่นใจในเอกสารหลักฐานข้อเท็จจริงทั้งหมดในการเป็นส.ส.ของตนว่าไม่มีความผิดอะไร เพราะนี่คือความพยายามเฮือกสุดท้ายของคสช.ที่จะสกัดกั้นพรรคอนาคตใหม่ เชื่อมั่นว่าศาลรัฐธรรมนูญจะให้ความเป็นธรรมและไม่เกี่ยวข้องใดๆกับการประกาศจุดยืนเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ยืนยันเชื่อว่าไม่มีใครหาข้อโต้แย้งหรือหลักฐานที่จะมาลบล้างหลักฐานที่มีอยู่ได้ ดังนั้นจึงไม่ได้กังวลในเรื่องนี้และไม่ได้เป็นประเด็นอะไร