พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จังหวัดพิษณุโลก เพื่อมอบคืนโฉนดและทรัพย์สิน คืนความสุขให้ประชาชนทั่วประเทศ ลดความเหลื่อมล้ำของสังคมครั้งที่ 11 ระหว่างวันที่ 30 มี.ค.-15 พ.ค. 2562 โดยมีลูกหนี้ได้รับโฉนดคืนทั่วประเทศ 1,932 ราย คืนโฉนด 1,802 ฉบับ เนื้อที่ 5,647ไร่ 2งาน 74 ตารางวา คิดเป็นมูลค่า 3,046,441,425 บาท ส่วนการเจรจาไกล่เกลี่ยจากหลายหน่วยงาน สามารถช่วยเจรจาทำข้อตกลงกันแล้ว จำนวน 41,000 ราย
สำหรับในส่วนของพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ที่วันนี้ได้รับคืนโฉนดจากคณะของ พลเอก ประวิตร / สามารถไกล่เกลี่ยได้ 873 ราย รวมโฉนด 971 ฉบับ เนื้อที่ 3,659ไร่ 1งาน 56.5 ตร.วา มูลค่า 2,389,593,510 ล้านบาท รวมทั้งยานพาหนะและเครื่องมือทำการเกษตร กว่า 170 คัน
ทั้งนี้ ตัวแทนประชาชนที่ได้รับคืนโฉนด กล่าวว่า เป็นหนี้ก็มีความทุกข์ทรมานใจ ยืมเขามาก็พยายามที่จะหาเงินผ่อนคืน แต่ไม่สามารถทำได้ จนกระทั่งวันนี้ได้รับความเมตตากรุณาจากรัฐบาลช่วยให้ตนและครอบครัวได้พ้นจากความทุกข์ ตอนนี้มีความสุขปลื้มปิติยินดีทุกอย่าง ขอขอบคุณรัฐบาล นายกรัฐมนตรี และพลเอกประวิตร
ขณะที่ตัวแทนประชาชนอีกคน ซึ่งได้รับคืนโฉนดไปเมื่อครั้งที่ 4 บอกว่า ขอบคุณรัฐบาลชุดนี้ ขอบคุณนายกรัฐมนตรี ขอบคุณพลเอกประวิตร ที่ได้ทำคำว่านโยบายให้มันสามารถจับต้องได้ ไม่เหมือนรัฐบาลชุดก่อนๆที่ผ่านมา ที่ทำนโยบายขึ้นมาแต่ประชาชนไม่ได้เข้าถึงรัฐบาลโดยตรง เมื่อ 6 ปีที่แล้วตนได้รับความเดือดร้อน ถูกยึดที่นาจากการขายฝาก ไปร้องเรียนหลายหน่วยงานราชการ แต่ก็ไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาช่วยเหลือได้ จนมาถึงรัฐบาลชุดนี้ และได้ส่งข้อความผ่านอินบ็อค Facebook ไปใน page ของ พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ก็ได้รับคำแนะนำต่างๆ และตนก็ทำตามจนได้รับความช่วยเหลือ ได้ที่นากลับมา
"การที่เราเป็นหนี้มันทุกข์มาก การที่เรามีทางออกโดยรัฐบาลให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายคือเจ้าหนี้และลูกหนี้ โดยใช้กฎหมายเดียวกัน มันทำให้เรามีความสุขอีกครั้ง ไม่มีคำพูดใดๆ ที่จะขอบคุณและสำนึกในบุญคุณของรัฐบาลชุดนี้ ถ้าไม่มีรัฐบาลนี้ ไม่มีนายกรัฐมนตรี ไม่มีพลเอกประวิตร ดิฉันก็คงไม่ได้มายืนขอบคุณตรงนี้ และสิ่งที่จะฝากขอบคุณคือ ถ้าไม่มี พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ ดิฉันก็ไม่มีวันนี้ / และขอร้อง พลเอกประวิตร ว่า อยากให้ช่วยคนที่ทำงานอย่างจริงจังเหมือน พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ กลับมาทำงานให้ประชาชนอีกครั้งได้หรือไม่ เพราะประชาชนที่เดือดร้อนจำนวนมาก ยังรอยู่ ขอขอบคุณอย่างสุดหัวใจ"
จากนั้น พลเอกประวิตร กล่าวย้ำกับประชาชนว่า เมื่อได้โฉนดคืนไปแล้วอย่าเอากลับไปจำนองอีกล่ะ (เสียงหัวเราะในห้องประชุม...ดังลั่น)
พลเอกประวิตร ให้สัมภาษณ์อีกครั้ง โดยยืนยันว่า แม้จะมีการเปลี่ยนตัว รอง ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปฉช.ตร.) งานในส่วนนี้ก็ไม่กระทบ ตอนนี้มี พลตำรวจโท ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. เข้ามารับหน้าที่แทน และทีมงานก็ยังเป็นชุดเดิม
เมื่อถามว่า ประชาชนเรียกร้องให้ พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ กลับมา / พลเอก ประวิตร บอกว่า ต้องดูว่าตำแหน่งเขาสูงขึ้นหรือไม่ อย่างไร จะกลับมาทำตรงนี้ได้หรือไม่ จะให้มาช่วยราชการได้หรือไม่ ก็ยังไม่รู้ ขอดูก่อน
ถามต่อว่า ศูนย์นี้จะมีอยู่ต่อใช่หรือไม่ แม้จะเปลี่ยนรัฐบาล / พลเอก ประวิตร กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของรัฐบาล ถ้าตนได้เป็นรัฐบาลต่อก็จะดำเนินการต่อเพราะถือเป็นนโยบายอยู่แล้ว ถ้าได้อยู่ต่อนะ
อย่างไรก็ตาม จากการดำเนินการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2561 จนถึงปัจจุบัน ได้ทำการคืนโฉนดให้กับประชาชน 24,014 ราย / คืนโฉนด จำนวน 20,360 ฉบับ เนื้อที่ 57,648ไร่ 2งาน 42.72ตารางวา คิดเป็นมูลค่า 27,614,488,361บาท