คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 ก.พ.2560 เว็บไซต์หนังสือพิมพ์บ้านเมือง ได้เผยแพร่ข่าวพร้อมภาพของหมอวิชัย ประธานกรรมการไอเฟค(ในขณะนั้น) และนายศุภกร แย้มงามเหลือ รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของไอเฟคให้ข่าวแก่สื่อมวลชนในทำนองว่า ไอเฟคตรวจพบว่าหนี้ของบริษัท โรงแรมดาราเทวี จำกัด ที่ชำระหนี้บางส่วนให้แก่บริษัท บริหารสินทรัพย์ โกลบอลวัน จำกัด เป็นหนี้ปลอมที่นายสิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์ และโกลบอลวันกับพวกร่วมกันฉ้อฉลสร้างหนี้ที่ไม่อยู่จริงขึ้นมา ทำให้ไอเฟคหลงเชื่อจ่ายเงิน 355 ล้านบาทไป ไอเฟคจึงได้ฟ้องบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อศาลเมื่อวันที่ 10 ก.พ.2560
ต่อมาเมื่อวันที่ 12 ก.พ.2560 หมอวิชัย ยังได้กล่าวในรายการสดผ่านเฟซบุ๊คไลฟ์ "รวมข่าว IFEC" ทำนองว่า ได้ตรวจสอบข้อพิรุธการจ่ายหนี้ของโรงแรมดาราเทวีให้แก่โกลบอลวันพบหลักฐานว่าไม่มีหนี้กันอยู่จริง รวมถึงเมื่อวันที่ 14 ก.พ.2560 ยังมีการนำข่าวที่เผยแพร่ไปเมื่อวันที่ 11 ก.พ.2560 ไปเผยแพร่ซ้ำทางเว็บไซต์อีไฟแนนซ์ไทยดอทคอม
ทั้งนี้ หนี้ที่โกลบอลวันเป็นเจ้าหนี้โรงแรมดาราเทวีนั้นเป็นหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการของโรงแรมดาราเทวี ซึ่งรับโอนจากธนาคารธนชาตมาตั้งแต่ปี 2555 เมื่อไอเฟคซื้อบริษัท โรงแรมดาราเทวี ไปจากผู้ถือหุ้นเดิม จึงได้เสนอขอชำระหนี้แก่โกลบอลวันจากหนี้เดิมประมาณ 1,800 ล้านบาท เหลือ 950 ล้านบาท โดยนายวิชัยขอค้ำประกันส่วนตัว 340 ล้านบาท โดยโรงแรมดาราเทวีได้ชำระหนี้แก่โกลบอลวันแล้ว 355 ล้านบาท ส่วนที่เหลือตามแผนฟื้นฟูกิจการจะต้องชำระภายในวันที่ 30 ธ.ค.2559
แต่ได้เกิดความปัญหาความขัดแย้งภายในไอเฟค และนายวิชัยซึ่งควบคุมไอเฟคไม่ยอมจ่ายหนี้ของโรงแรมดาราเทวีที่เหลือแก่โกลบอลวัน และไม่ยอมจ่ายหนี้ที่นายวิชัยค้ำประกัน แต่กลับนำคดีไปฟ้องศาล แล้วนำมาใส่ร้ายใส่ความว่าโกลบอลวันร่วมกับอดีตผู้บริหารไอเฟคที่ลาออกไปสร้างหนี้ปลอมขึ้นมา จึงทำให้โกลบอลวันได้ยื่นฟ้องไอเฟคกับนายวิชัย เรียกค่าเสียหายในข้อหาละเมิด ฐานไขข่าวข้อความที่ฝ่าฝืนต่อความจริง และได้ยื่นฟ้องนายวิชัย กับนายศุภกรในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา