"ฐิสา" เผยสัมพันธ์ "ปั้นจั่น" ไม่คืบ ไม่พร้อมลงภาพคู่

ช่วงนี้จะเห็นว่าหนุ่มปั้นจั่น เดินหน้าจีบสาวฐิสาอยู่ตลอดมีตามไปเที่ยวทริปรัสเซียบ้าง เอาหมวกของฐิสาไปถ่ายรูปบ้าง แฟนๆก็พากันจิ้นและตีความกันไป งานนี้ดูเหมือนว่าสาวฐิสา จะเกิดอาการไม่พอใจกองเชียร์ขึ้นเมื่อมีชาวเน็ตเข้ามาจับผิดถึงเหมวกที่ฐิสา และหนุ่มปั้นจั่นใส่ถ่ายรูปเป็นใบเดียวกัน และเข้ามาแซะเบาๆว่าอย่ามาปิดบังหรือโกหก ฐิสาก็เลยคอมเม้นต์ตอกกลับทันทีด้วยการอธิบายเรื่องราวทั้งหมดลงไปรัวๆ ล่าสุดฐิสาได้เปิดใจให้ฟังว่าที่เธอต้องจตอบกลับเพราะคนเข้าใจผิดไปเอง แค่อยากจะอธิบายเฉยๆว่าเธอและปั้นจั่นยังแค่คุยๆเรียนรู้กันอยู่เท่านั้น ซึ่งเธอก็มองว่าเป็นเรื่องปกติที่ใครก็สามารถยืมอุปกรณ์ถ่ายรูปได้ ไม่จำเป็นต้องมีสัมพันธ์ลึกซึ้งขนาดนั้น และที่ไม่เห็นรูปคู่ของเธอกับปั้นจั่นก็เพราะว่าความสัมพันธ์ยังไม่คืบหน้าและไม่พร้อมจะลงรูปคู่เกรงว่าแฟนๆจะเข้าใจผิด

งานนี้หนุ่มปั้นจั่นคงต้องรีบทำคะแนนแล้วล่ะค่ะ เพราะดูเหมือนสาวฐิสาจะใจแข็งและใช้เวลาอีกพักใหญ่ อย่างไรก็ลุ้นให้มีข่าวดีพัฒนาความสัมพันธ์ในทางที่ดีขึ้นนะคะ

ถามถึงรูปที่เราเข้าไปคอมเม้นต์กลับ"อย่างที่เราบอกตั้งแต่ตอนแรก มันก็จะมีทั้งสองเสียงแหละเนอะ ฝั่งที่เชียร์และไม่เชียร์ เราก็เข้าใจ ส่วนที่เราตอบไปก็คือเราไม่ได้คิดอะไร แค่อยากจะบอกเขาว่าเรายังค่อยๆดูอยู่ ที่ผ่านมาเราก็เป็นคนดูแลตัวเองอยู่แล้ว อยากให้ทุกคนใจเย็นๆกันก่อน ไม่ต้องห่วงเราขนาดนั้น "
อะไรทำให้เราตัดสินใจตอบคอมเม้นต์" จริงๆมันก็มีหลายคอมเม้นต์ ในใจเราก็คือส่วนหนึ่งอยากจะอธิบาย ในส่วนที่เราอธิบายได้ แต่อีกส่วนหนึ่งก็คือเรื่องไหนปล่อยได้ก็จะปล่อยไป "
แล้วหมวกใบเดียวกันไหม" มันเป็นหมวกของหนูค่ะ "
แต่เขายืมไปใส่ถ่ายรูป" ใช่ค่ะ ยืมใส่ถ่ายรูปเฉยๆไม่ได้มีอะไรค่ะ "
กดดันไหมเวลามีคนมาเชียร์เยอะๆ มันรู้สึกเหมือนมีคนมาละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของเราไหม"เรารู้สึกว่าตัวเราอยากจะใช้ชีวิตให้มันปกติที่สุด สบายๆ เราก็ไม่ได้รู้สึกอยากจะหลบๆซ่อนๆ คือตัวเรารู้อยู่แล้วว่าทำอะไรอยู่ สิ่งที่เราทำอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ เราไม่ได้ทำอะไรผิด แต่บางทีเราก็รู้สึกว่าไม่อยากกดดันการใช้ชีวิตตัวเองเกินไป เราก็ปล่อยให้เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ "
ยืมหมวกกันคนก็มองว่าความสัมพันธ์คงมากพอแล้ว" ไม่นะคะ มันแค่ถ่ายรูปเฉยๆ คือโดยส่วนตัวเราถ้าใครมาขอยืมอุปกรณ์ถ่ายรูป เราก็ไม่ได้ว่าอะไรอยู่แล้ว "

คนมาคอนเม้นต์เยอะเรากดดันไหมว่าต้องวางตัวยังไง" ถ้าโดยส่วนตัวเราก็อย่างที่บอกไปว่าอยากใช้ชีวิตปกติ สบายมากที่สุด แต่เราก็เข้าใจสิ่งที่คนข้างนอกมองเข้ามา เราก็ไม่อยากทำให้มันดูไม่โอเคทั้งตัวเราเองและพี่เขา ไม่อยากให้ใครมาว่าตัวเราได้ พี่เขาได้ แต่อย่างที่บอกไป ณ เวลานี้เราก็พยายามดูแลในเรื่องต่างๆให้มันออกมาดีที่สุดด้วย "
รู้สึกไหมว่าเขาพยายามมาอยู่ในส่วนหนึ่งของชีวิตเรา" หรอคะ (หัวเราะ) ก็ยังค่อยๆคุยกันไปค่ะ บางคนก็คิดกันไปต่างๆนานาว่ามันไปถึงไหนยังไงแล้ว แต่เราก็ออกมาบอกชัดเจนตลอดว่าเพิ่งคุยกันอยู่ "ช่วงนี้ดูไปเที่ยวกันบ่อย" ไม่บ่อยนะคะ "
เปิดใจให้เขาบ้างหรือยัง" ก็ยังค่อยๆดูไปก่อน เราไม่รู้ว่าแต่ละคนมีระยะเวลาในการคุยกันแค่ไหน สำหรับตัวเราเรารู้สึกว่าอยากใช้เวลาให้นานที่สุด ให้แน่ใจที่สุด แต่บางทีเรารู้สึกว่าการไปกินข้าว หรือไปเที่ยวด้วยกันคุณคือสถานะนี้แล้ว ต้องเป็นความสัมพันธ์แบบนี้แล้ว บางทีอาจจะแค่ทำความรู้จักกันก่อน บางทีถ้าเราไม่ได้ทำความรู้จักกันเลย จะรู้ได้ยังไงว่าเขาเป็นคนยังไง "
เขาก็ยังเป็นเพื่อน" ก็ยังเป็นพี่อยู่ เป็นพี่เป็นน้องกัน "
ถ้าให้เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียมีอะไรมากกว่า" โอโห ทุกคนก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ก็ค่อยๆดูไปค่ะ "
อย่างไปรัสเซียเขาช่วยเราถือกระเป๋าช่วยถ่ายรูปให้" เขาก็ช่วยทุกคนเท่าที่ช่วยได้นะคะ อย่างที่บอกไปว่าตอนแรกเป็นทริปที่มีพี่ต๊ะที่เป็นผู้ชายคนเดียว นอกนั้นก็เป็นสาวๆกันหมด ซึ่งสาวๆก็ต้องมีพร้อปเยอะอยู่แล้ว พี่เขาไปก็เลยได้ไปช่วยอีกคนหนึ่ง "
เขาดูแลเราเป็นพิเศษไหม" ไม่ได้พิเศษกว่าคนอื่นเลยค่ะ จะบอกว่าทริปนี้ไม่ใช่เป็นทริปที่ไปดูแลกันเลย มันค่อนข้างลุยมากกว่า เราไปกันเอง แล้วก็ไม่ได้แพลนอะไรล่วงหน้าขนาดนั้น บางทีไปหาเอาข้างหน้า มันก็เลยอาจจะวุ่นวายนิดหน่อย "
หลายคนถามหารูปคู่" ก็คงต้องมีขอถ่ายแหละเนอะ "
จะได้เห็นไหม" คงยังไม่ได้เห็น "
ถ้าพี่เขาลงเราโอเคไหม" ไม่โอเคค่ะ คือโดยส่วนตัวในมุมหนึ่งเราก็ไม่ได้คิดมากขนาดนั้น แต่ว่ามันก็คงเป็นเรื่องปกติที่เขาอยากขอถ่ายรูปด้วยกับเรา แต่ถ้าลงก็อาจจะมีคนมองในหลายๆทาง ซึ่งเราก็ไม่อยากให้คนคิดก้าวกระโดดขนาดนั้น อย่างที่บอกไปว่ามันมีทั้งสองเสียง เราไม่อยากให้เกิดการเข้าใจผิดกันเอง เราก็เลยรู้สึกว่าให้มันค่อยๆเป็นค่อยๆไปดีกว่า "

ไม่อยากให้คนคิดไปเอง" ด้วยค่ะ แล้วเราก็รู้สึกว่าทุกครั้งที่เราออกมาตอบเราก็ชัดเจน ถึงบอกว่าใจเย็นๆกันก่อน "
คนเชียร์เราเยอะถึงกับมีแฮชแทคขึ้นมาเลย" ขอบคุณค่ะ ส่วนแฮชแทคยังไม่เคยเห็น "
มีผลต่อจิตใจไหมคนเชียร์เยอะ" ไม่หรอก ทุกอย่างมันขึ้นอยู่ที่ตัวเราและตัวพี่เขา สุดท้ายแล้วเราก็ต้องตัดสินใจกันเอง "
มีระยะเวลาไหม" ไม่ได้กำหนดระยะเวลาเลย ก็ค่อยคุยไปเรื่อยๆดีกว่า คือด้วยความที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย แล้วเวลาก็เพิ่งสั้นๆกันเอง "
ทุกวันนี้คุยกันบ่อยขึ้นไหม" ก็เรื่อยๆค่ะ ส่วนมากก็จะคุยกันเรื่องงานเขาไลน์มา "
มีโอกาสไปเที่ยวไหนต่อไหม" ตอนนี้ยังไม่มีแพลนเลยค่ะ ตอนนี้กลับมาทำงานต่อ "
ถ้าเขาจ้างออกงานคู่ออกไหม" ทำงาน ทำได้ค่ะ ไม่ได้มีปัญหา แต่เรื่องทำงานติดต่อคุณแม่อีกทีนึง เพราะคุณแม่ดูแล "