กรณี ส.ต.ต.เอกพล จุ้ยส่องแก้วขอตรวจใบขับขี่จากชายที่อ้างว่าเป็นอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 ที่ขับรถเก๋งผ่านจุดตรวจในพื้นที่ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช และอ้างว่าเป็นเพื่อนกับ พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทำให้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เรียกตัว พล.ต.ต.ฐากรู เนตรพุกกณะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช , พ.ต.อ.โชคดี และส.ต.ต.เอกพล มาสอบสวนเพื่อพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอน
ความคืบหน้าล่าสุด เฟซบุ๊กของ พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์ เผยแพร่ข้อความระบุว่า "กฎหมายที่ควรรู้ ถ้าท่านอ่านฎีกานี้เข้าใจแล้วทุกคนจะรู้ว่าทำไมผมจึงแก้ปัญหาให้ลูกน้องแบบนั้น เพราะไม่ต้องการให้เขามาฟ้องร้องตำรวจของตัวเองในภายหลัง โดยเฉพาะผู้ที่ถูกตรวจค้นเป็นนักกฎหมาย แม้ พ.ร.บ.รถยนต์ มาตรา 42 บัญญัติไว้ว่าผู้ขับรถต้องมีใบอนุญาตขับรถในขณะขับ เพื่อแสดงต่อเจ้าพนักงานได้ทันที แต่นั่นมิได้หมายความว่าให้อำนาจเจ้าพนักงานมีอำนาจเรียกตรวจสอบได้ทุกกรณี เจ้าหน้าที่จะเรียกตรวจสอบได้เฉพาะมีเหตุสงสัยเท่านั้น ตามสิทธิที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้"
"การใช้อำนาจเกินเลยของเจ้าพนักงานย่อ,ถูกปฏิเสธได้เทียบตามนับฎีกาที่ 8722/2555 เมื่อไม่มีเหตุอันควรสงสัยตามกฎหมายที่จะทำกรตรวจค้นได้การตรวจค้นจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยที่ถูกกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายจึงมีสิทธิโต้แย้งและตอบโต้เพื่อปกป้องสิทธิของตนเอง ตลอดจนเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งใดๆ อันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบดังกล่าวได้"
โดยมีนักกฎหายและประชาชนทั่วไปเข้ามาชมแชร์และวิพากวิจารณ์แสดงความคิดเห็นจำนวนมากเนื่องจากบทสนทนาในคลิปเสียงเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจใบขับขี่ ไม่ใช่ขอตรวจค้นรถ