"เรืองไกร" ร้อง กกต. พบ ส.ส. พปชร.-ปชป. เพิ่มอีก 13 รายเข้าข่ายถือหุ้นสื่อ

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่าหลังจากได้รับหนังสือจาก กกต. เรียกไปให้ข้อมูลที่ร้องผู้สมัคร 4 ราย ในเช้าวันนี้ (วันที่ 10 พ.ค.) โดยบางรายมีข้อมูลใหม่ที่ระบุวัตถุประสงค์ทำสื่ออย่างชัดเจนและยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่จนมาถึงปัจจุบันด้วยนายเรืองไกร กล่าวว่ามีข้อมูลจะไปยื่นเพิ่มเติมอีก 13 ราย ที่พบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเกี่ยวกับการถือหุ้นในกิจการที่มีวัตถุประสงค์ออกหนังสือพิมพ์หรือผลิตสื่อต่าง ๆ ซึ่งเป็นผู้สมัคร ส.ส. ของสองพรรคการเมือง คือ...พรรคพลังประชารัฐ ประกอบด้วย 7 ราย 1.นางสาวภาดาท์ วรกานนท์ กทม.เขต 6 มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ทาโร่ทาเลนท์ จำกัด 2.นางสาวธนิกานต์ พรพงษาโรจน์ กทม.เขต 7 มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท รางวัลไทย จำกัด 3.นายสิระ เจนจาคะ กทม.เขต 9 มีชื่อเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจำกัด ไฮ เทค ออดิโอ 4.นางสาวเกศกานดา อินช่วย กทม.เขต 16 มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ก้าวไกล ครีเอท จำกัด 5.นายศันสนะ สุริยะโยธิน กทม.เขต 22 มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ที อี พี พี จำกัด 6.นายอรรถกร ศิริลัทธยากร มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท วาย.เอ็ม.จอมเทียน จำกัด 7.นายยุทธนา โพธสุธน มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท บ้านไทย รีสอร์ท จำกัดพรรคประชาธิปัตย์ ประกอบด้วย 6 ราย 1.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท วัฒนโสภณพนิช จำกัด 2.นายเกียรติ สิทธีอมร มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท โปร เอ็น โฮลดิ้งส์ จำกัด 3.นายวีระชัย วีระเมธีกุล มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ศิริเมธีกุล จำกัด 4.นายประกอบ จิรกิติ มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท พี แอนด์ วี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด 5.นายสัญชัย อินทรสูต มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท นครสวรรค์สหธุรกิจ จำกัด 6.ร้อยตรีวิจิตร อยู่สุภาพ มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท นครสวรรค์

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า หากยึดตามคำวินิจฉัยในคำสั่งศาลฎีกาที่ 1356/2562 โดยศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "...ผู้ร้องเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ที.เอ็ม.อินเตอร์เนชั่นแนล อิมพอร์ท เอ็กซ์พอร์ท จำกัด ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการโรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือจำหน่าย และออกหนังสือพิมพ์ด้วย ดังนี้ ผู้ร้องจึงเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 98 (3) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 42 (3) ที่ผู้ร้องอ้างข้อเท็จจริงว่าแม้มีวัตถุประสงค์ดังกล่าวแต่บริษัทไม่ได้ประกอบกิจการโรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือ พิมพ์หนังสือจำหน่าย และออกหนังสือพิมพ์เลย ฟังไม่ขึ้น..."นายเรืองไกร กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคใดแล้ว จึงมีเวลาและมีข้อมูลที่ยังต้องตรวจสอบอีกมาก อีกทั้งคนของแต่ละพรรคการเมืองก็มีการส่งข้อมูลมาให้ตรวจสอบอยู่เรื่อย ๆ คือ ต่างฝ่ายต่างพรรคต่างก็ร้องกันไปมาโดยส่งข้อมูลให้ตนทราบด้วย กรณีใดที่ตนเห็นว่าเข้าข่าย ก็จะยื่นร้อง กกต. ต่อไป