คลังเตรียมออกประกาศยกเว้นดอกเบี้ยออมทรัพย์
สรรพากรเตรียมออกประกาศรองรับยกเว้นภาษีดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ ผู้มีเงินฝากทุกบัญชีรวมกันไม่ถึง 2 หมื่นบาท ไม่ต้องแสดงความยินยอมที่แบงก์ แต่หากไม่ต้องการยกเว้นภาษี ต้องแจ้งแบงก์ไม่ให้นำส่งข้อมูล และจะถูกหักภาษีที่จ่ายจากดอกเบี้ยในอัตรา 15%
อธิบดีกรมสรรพากร เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ระบุ ตามที่กรมฯได้ออกประกาศเรื่องภาษีเงินได้ ฉบับที่ 344 เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้ สำหรับดอกเบี้ยเงินฝากที่ต้องจ่ายคืนเมื่อทวงถามประเภทออมทรัพย์ และผลตอบแทนเงินฝากตามหลักการของศาสนาอิสลามที่ต้องจ่ายคืนเมื่อทวงถามตามหลักการวะดีอะฮ์
กรมฯได้หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. สมาคมธนาคารไทย และสมาคมธนาคารนานาชาติ เมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อกำหนดแนวทางการส่งข้อมูลดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ให้กรมฯ โดยได้ข้อสรุปที่จะเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ฝากเงินมากที่สุด
ที่ประชุมเห็นพ้องกันในการแก้ไขประกาศข้างต้น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ฝากเงินบัญชีออมทรัพย์ส่วนใหญ่ทั่วประเทศให้ได้รับสิทธิยกเว้นภาษี โดยธนาคารจะนำส่งข้อมูลดอกเบี้ยแก่กรมฯ แต่หากผู้ฝากเงินไม่ประสงค์จะได้รับยกเว้นภาษี ต้องแจ้งแก่ธนาคารผู้จ่ายดอกเบี้ยไม่ให้นำส่งข้อมูล ซึ่งธนาคารจะหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายจากดอกเบี้ยดังกล่าวไว้ในอัตรา 15% โดยกรมฯอยู่ระหว่างปรับปรุงประกาศฉบับดังกล่าว
ด้านประธานสมาคมธนาคารไทย ปรีดี ดาวฉาย ระบุ การกำหนดให้ธนาคารผู้จ่ายดอกเบี้ยนำส่งข้อมูลดอกเบี้ยทุกบัญชีต่อกรมสรรพากร จะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าบัญชีเงินฝากส่วนใหญ่ของประเทศ
สำหรับลูกค้าที่ไม่ประสงค์จะใช้สิทธิดังกล่าว และไม่ต้องการให้ธนาคารผู้จ่ายดอกเบี้ยนำส่งข้อมูลดอกเบี้ยให้กรมฯ ต้องกรอกแบบฟอร์มเพื่อแจ้งความประสงค์ที่ธนาคารผู้จ่ายดอกเบี้ยที่ลูกค้ามีบัญชีให้ครบทุกธนาคาร ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป โดยการแจ้งครั้งเดียวจะมีผลตลอดไป จนกว่าลูกค้าจะมาแจ้งเปลี่ยนแปลงเป็นอื่น
สำหรับลูกค้าที่มาแจ้งภายในวันที่ 14 พฤษภาคม 2562 จะมีผลตั้งแต่รอบภาษีดอกเบี้ยจ่ายครึ่งปีแรกในเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป