ทั้งนี้โดยระบุว่า ตามพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 เป็นการผ่อนปรนให้ใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และการศึกษาวิจัยเท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้ในทางอื่นได้ ดังนั้นการนำกัญชาไปใช้เป็นส่วนผสมของอาหาร หรือเวชสำอางไม่สามารถทำได้ และไม่ว่าจะเป็นการนำเข้า หรือมีไว้ในครอบครอง รวมทั้งใช้ประกอบอาหาร หรือเวชสำอางที่มีส่วนผสมของกัญชาล้วนถือเป็นความผิดตามกฎหมาย
"สำหรับอาหารหรือเวชสำอางที่พบว่ามีส่วนผสมของกัญชาเช่น ลูกอม คุกกี้ ช็อกโกแลต บุหรี่ น้ำยา หรือครีมบำรุงผม บำรุงผิว ส่วนใหญ่จะผลิตจากต่างประเทศที่กฎหมายอนุญาตให้ใช้ ซึ่งสังเกตดูได้จากบรรจุภัณฑ์หรือฉลาก จะมีข้อความระบุส่วนผสมว่ามี สาร THC หรือ CBD ซึ่งเป็นสารสกัดจากกัญชา "เลขาธิการป.ป.ส.ระบุ
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวอีกว่า สำหรับประเทศไทยกัญชายังเป็นยาเสพติด และมีการปรับกฎหมายเพื่อผ่อนปรนให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และการศึกษาวิจัยเท่านั้น เพราะกัญชามีทั้งส่วนที่เป็นประโยชน์และส่วนที่เป็นโทษ ดังนั้น การผลิต นำเข้า ครอบครอง หรือใช้สินค้าที่มีส่วนผสมของกัญชาไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด หากไม่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. จะมีความผิดตามกฎหมาย