แหล่งข่าวจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่าแม้บอร์ดได้อนุมัติแผนการจัดหาเครื่องบินใหม่ของการบินไทยและได้แจ้งให้การบินไทยทราบแล้วแต่ สศช. ได้มีข้อสังเกตเกี่ยวกับสถานะของการบินไทยด้านการเงินที่ประสบปัญหาขาดทุนมาโดยตลอดซึ่งการลงทุนใหม่ที่จะเกิดขึ้นจะทำให้เป็นปัญหาได้จึงเห็นว่ารัฐบาลควรสนับสนุนโดยการเพิ่มทุนให้กับการบินไทย วงเงินราว 2-3 หมื่นล้านบาทเป็นการเพิ่มทุนในสัดส่วนของผู้ถือหุ้นเดิม ซึ่งมีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่อยู่จำนวน 51.03% ดังนั้นการเพิ่มทุนรอบใหม่กว่าครึ่งหนึ่งจะเป็นของกระทรวงการคลังโดยคาดว่าการเพิ่มทุนน่าจะเสนอ ครม.ชุดใหม่ ขณะที่แผนการจัดหาเครื่องบินใหม่จะสามารถเสนอ ครม.ให้ทันในรัฐบาลชุดนี้
ด้านกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย สุเมธ ดำรงชัยธรรม เผยว่าแผนการจัดซื้อฝูงบินของการบินไทยได้ผ่านความเห็นชอบจาก สศช.เป็นที่เรียบร้อย ส่วนการจัดซื้อเครื่องบินในครั้งนี้จะใช้วิธีการเช่าหรือเช่าซื้อ
โดยการจัดซื้อเฟสแรก 25 ลำ จะใช้เวลาราว 6 เดือน หลังครม.อนุมัติซึ่งจะเลือกเครื่องบินรุ่นที่เหมาะสมและทยอยรับมอบได้ในอีก 2 ปี การจัดหาฝูงบินใหม่จะทำให้การบินไทยมีภาพลักษณ์ด้านการบริการที่ดีขึ้นเพราะเป็นการแก้ปัญหาเรื่องของฝูงบินที่การบินไทยมีเครื่องบินเก่า ไม่ทันสมัยทำให้มีปัญหาในการปฏิบัติการบิน การหมุนเครื่องบินที่ไม่เหมาะสมค่าซ่อมบำรุงที่เพิ่มสูงขึ้น
ส่วนการขายฝูงบินเก่าที่ปลดระวางนั้นบอร์ดได้เห็นชอบให้ขายเครื่องบินเก่าแล้ว 20 ลำ ขณะนี้ได้ตกลงการขายกับผู้ซื้อไปแล้ว 16 ลำ รวมมูลค่าราว 4,000 ล้านบาท ประกอบไปด้วย แอร์บัสเอ 300-500 จำนวน 2 ลำ และเอ 340-600 จำนวน 6 ลำ เอ 330 จำนวน 5 ลำโบอิ้ง 737-400 จำนวน 1 ลำ และโบอิ้ง 747 คาร์โกอีก 2 ลำ สำหรับเครื่องบินที่รอการขายอีก 4 ลำ ประกอบด้วย แอร์บัส 300-600 จำนวน 1ลำ แอร์บัส 340-500 จำนวน 1 ลำ และโบอิ้ง 737-400 อีกจำนวน 2 ลำ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาในรายละเอียดเพื่อลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ในการชื้อขาย คาดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ทั้งนี้ในช่วงที่รอเครื่องบินใหม่กว่า 2 ปีการบินไทยจะเช่าเครื่องบินอีก 2-3 ลำเข้ามาใช้งานในช่วง 6 เดือนนี้ เพื่อนำมาขยายจุดบินใหม่ๆ เช่น เซนได ประเทศญี่ปุ่น