การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการ ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ 2019 แซนดี้ เคราแก้ว สตูวิค ลงแข่งในรุ่น ซูเปอร์ คาร์ จีที 3 (Super Car GT3) ซึ่งเป็นรุ่นใหญ่ที่สุดของรายการ ด้วยรถ ออดี้ อาร์ 8 จีที 3 แอลเอ็มเอส อัลตรา (Audi R8 GT3 LMS Ultra) โดยนักแข่งสัญชาติไทย ประกบคู่กับ ฌอน ถัง (Shaun Thong) นักขับชาวฮ่องกง ที่มีประสบการณ์ในรถรุ่นจีทีทั้งระดับเอเชียและยุโรปเช่นเดียวกับแซนดี้ โดยทั้งคู่สังกัดทีม บี-ควิก เรซซิ่ง (B-Quik Racing Team) โดยในวันศุกร์ ( 19 ) ซึ่งเป็นรอบวันซ้อมของนักขับ ทั้ง แซนดี้ และ ฌอน ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม อยู่อันดับท็อป 3 ของทำเนียบนักแข่งทั้งหมดส่วนในวันเสาร์ ( 20 )เป็นรอบควอลิฟาย แซนดี้ ลงควอลิฟายแรกซึ่ง นักขับไทย ก็คว้าตำแหน่งโพลโพซิชั่น ทำให้แซนดี้ออกจากกริตสตาร์ทเป็นคนแรกในเรซที่ 1 ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ส่วนฌอน ลงควอลิฟายที่ 2 ได้ตำแหน่งกริตสตาร์ทที่ 2 ตามหลังอดีตนักขับ F1 โทมัส เอนเก้ (Tomas Enge) สำหรับแข่งในเรซที่ 2 ในวันอาทิตย์ ทั้งนี้ช่วงบ่ายของวันเสาร์ ซึ่งเป็นรอบแข่งขันเรซที่ 1 แซนดี้ ออกกริตสตาร์ทเป็นคันแรก ขับนำเป็นจ่าฝูง ทิ้งห่างคู่แข่งเป็นอย่างมาก และรักษาเป็นอันดับที่ 1 ได้นานเกือบครึ่งชั่วโมงต่อมา แซนดี้ พบปัญหากับยางหลังด้านขวาที่เริ่มหมด จึงต้องเข้าพิทเพื่อเปลี่ยนยางและเปลี่ยนมือนักขับ เป็น ฌอน ที่รับไม้ต่อ ทำให้เสียอันดับลงไป อย่างไรก็ตาม ฌอน นักขับฮ่องกง สามารถขับเคี่ยวเร่งเครื่องอย่างเต็มกำลัง เพื่อขยับอันดับสูงขึ้นอีก แต่ยังไม่สามารถแซงลัมโบกินี ฮูราคาน อีโว หมายเลข 26 ไปได้ ทำให้ ในที่สุด ทั้ง แซนดี้ แล ะฌอน หมายเลข 2 จบอันดับที่ 2 โอเวอร์ออล ขึ้นโพเดี้ยมเป็นครั้งแรกในสนามแรก ส่วนเพื่อนร่วมทีมบี-ควิก หมายเลข 26 ออดี้อาร์ 8 อีโว (Audi R8 GT3 Evo) จบอันดับที่ 3 โอเวอร์ออล
ส่วนเช้าวันอาทิตย์ ( 21 ) ซึ่งเป็นการแข่งขันในเรซที่ 2 ฌอน รับหน้าที่ดวลเป็นคนแรก โดยออกสตาร์ทตำแหน่งกริตสตาร์ทที่ 2 และรักษาอันดับที่ 2 อย่างต่อเนื่อง พยายามแซงลัมโบกินี ฮูราคาน จีที 3 อีโว ให้สำเร็จ แต่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในสนามจากคันอื่น จึงทำให้รถเซฟตี้ออกมาวิ่งนำขบวน ในช่วงก่อนพิทวินโดวส์จะปิด ฌอน ส่งไม้ต่อให้ แซนดี้ รับหน้าที่ต่อ ซึ่ง แซนดี้ เร่งเครื่องเต็มที่เพื่อปิดช่องว่าง ในเวลาที่ห่างจากลัมโบกินี 57ให้สำเร็จ แต่ด้วยกฎของการแข่งขัน ฌอน และ แซนดี้เ ป็นนักแข่งระดับซิลเวอร์-ซิลเวอร์ จึงจำเป็นต้องถึงถูกเพิ่มเวลาพิทสตอป นานกว่าคู่แข่ง พร้อมเพิ่มเวลาการรอที่พิทอีก 10 ซึ่งเป็นกฏอันเนื่องมาจากคว้าที่ 2 ในเรซแรกเมื่อวันเสาร์ (เรียกว่าเป็น Success Penalty) ทำให้ช่องว่างเวลาที่ห่างจากลัมโบกินี หมายเลข 57 นั้นไกลกว่าจะปิดลงได้ในที่สุด แซนดี้ เร่งเครื่อง จบอันดับที่ 3 ซึ่งห่างจากอันดับที่ 2 รถลัมโบกินี่ ฮูราคาน จีที 3 อีโว (Lamborghini Huracan GT3 EVO) หมายเลข 57 เพียง 1 วินาที และห่างจากอันดับที่ 1 เพื่อนร่วมทีมดียวกัน รถออดี้ อาร์ 8 จีที 3 อีโว (Audi R8 GT3 Evo) หมายเลข 26 ขับโดย เฮงก์ กิกส์(Henk Kiks) and แดเนียล บิลสกี (Daniel Bilski) เพียง 2-3 วินาทีเท่านั้น ทำให้แซนดี้ ได้ขึ้นโพเดี้ยมอีกครั้ง ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 ต่อจากเมื่อวันเสาร์ นับว่าเป็นการแข่งขันนัดเปิดฤดูกาลสนามแรก ของรายการไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ 2019 อย่างสวยงามของแซนดี้แซนดี้ บอก หลังการแข่งขันว่า มันเป็นสุดสัปดาห์ที่ยอดเยี่ยมมากกับทีมบี-ควิก และรถออดี้ ที่ได้เก็บคะแนนสะสม ได้เรียนรู้เกี่ยวกับรถ และตอนนี้กำลังรอคอยที่จะได้ลงแข่งในสนามต่อไป คือ ที่สนามบุรีรัมย์ แล้ว ซึ่งขณะนี้ ทางทีมวิศวกร ทีมช่างของบี-ควิก ที่ได้รับการสนับสนุนจาก แอปโซลูท เรสซิ่ง (Absolute Racing) เตรียมรถแข่งให้แล้ว มันตื่นเต้นมาก ที่จะได้ลงแข่งสนามต่อไป และสุดท้าย ขอขอบคุณสปอนเซอร์ทุกฝ่าย ที่ให้โอกาสได้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งนี้สนามต่อไป ของ ไทยแลนด์ ซูเปอร์ซีรีส์ 2019จะไปทำการแข่งกัน ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต บุรีรัมย์ ระหว่าง 7-9 มิถุนายน นี้