กทม. เตรียมพร้อมทุกด้านรองรับ ปชช. ราว 2 แสนคน

พลตำรวจโท ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้บัญชาการสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ และนายไพโรจน์ สันตนิรันดร์ ผู้ช่วยปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมแถลงภายหลังการประชุมกองอำนวยการร่วมถวายความปลอดภัยและการจราจรงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก หรือ กอร.พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ถึงการเตรียมความพร้อมดูแลประชาชนที่เดินทางเข้ามาร่วมชื่นชมพระบารมี ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ว่ากรุงเทพมหานคร แต่งตั้งคณะกรรมการ 12 คณะขึ้นมารับผิดชอบการให้บริการประชาชนทั้งด้านอาหาร น้ำดื่ม ห้องสุขาและที่พัก

โดยการบริการด้านอาหาร รอบเส้นทางและใจกลาง จะเป็นของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดำเนินการ / ส่วนรอบบริเวณมณฑลพิธีและจุดพักคอย 6 จุด ที่มีการตั้งโรงครัวพระราชทาน ทาง กทม. จะจัดอาหารคุณภาพดี เพื่อรองรับประชาชนกว่า 160,000-200,000 คน รวมทั้งจุดคัดกรองและจุดแก้มลิง 28จุด จะมีบริการน้ำดื่ม 90จุด โดยให้เอกชนเข้ามาร่วมให้บริการนอกจากนี้ จะมีการตั้งแทงค์บรรจุน้ำเย็น 80 แทงค์ เพื่อให้ประชาชนสามารถนำภาชนะมาเติมน้ำตามจุดที่ตั้งไว้ได้รวมทั้งจะมีรถน้ำของการประปา บรรจุน้ำเย็นไว้บริการอีก 8 คันส่วนการบริการรถสุขาเคลื่อนที่ 48 คัน จะกระจาย ตามจุดบริการอาหารและตามโซนต่างๆโดยจัดเตรียมรถเสริมเพิ่มอีก 29 คัน นอกจากนี้ได้ประสานบ้านเรือนประชาชนโดยรอบพื้นที่ ให้การสนับสนุนห้องสุขาสำรอง 68 หลังคาเรือน ซึ่ง กทม. จะดำเนินการบริการสูบส้วมให้กับบ้านของประชาชนทั้งก่อนและหลัง รวมทั้งทำความสะอาดให้ด้วย โดยบ้านที่ให้ความร่วมมือจะติดสติ๊กเกอร์เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้ประชาชนทราบว่าเป็นสุขาที่สามารถใช้บริการได้ เช่นเดียวกับหน่วยราชการทุกหน่วย ที่ตั้งอยู่บริเวณรอบงานพระราชพิธี ก็เปิดให้ประชาชนสามารถเข้าไปใช้บริการสุขาได้สำหรับที่พักค้างคืนนั้น ทาง กทม. ได้จัดเตรียมสถานที่พักพร้อมเครื่องนอน จำนวน 1,000 คน ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 และ 2
พลตำรวจโท ไกรบุญ กล่าวว่า ในพื้นที่ที่ประชาชนมารอชมริ้วขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค ช่วงวัดราชบพิตรสถิตรมหาสีมาราม ไปยังวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ซึ่งระหว่างนี้จะต้องใช้เวลาอยู่ในพื้นที่นาน อาจมีความหิวและต้องการพักผ่อนอิริยาบถ ทาง กอร. ได้อนุมัติจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน อีก 2 แห่ง เพื่อรองรับประชาชน ที่ลานคนเมือง กทม. และ มิวเซียมสยามอย่างไรก็ตาม ในวันที่ 5 พฤษภาคม ที่มีริ้วขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค และวันที่ 6 พฤษภาคม ที่มีการเสด็จออก ณ สีหบัญชร นั้น จะมีการเปิดพื้นที่ท้องสนามหลวง และบริเวณกำแพงรั้วพระบรมมหาราชวังให้ประชาชนสามารถเฝ้ารับเสด็จฯ เพื่อชื่นชมพระบารมีได้ พร้อมติดตั้งจอภาพขนาดใหญ่เพื่อให้ประชาชนมองเห็นพระราชพิธีทั้งหมด