ต้นยางนา 100 ปียืนต้นตาย ไร้หน่วยงานดูแล

วันที่ 22 เมษายน 2562 นายสืบศักดิ์ จินดาพล กำนันตำบลโคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านในพื้นที่ นำผู้สื่อข่าวเข้าดูสภาพของต้นยางนาขนาดใหญ่สูงประมาณ 30 เมตร ขนาดรอบลำต้นประมาณ 3 เมตร จำนวน 3 ต้น อายุมากกว่า 100 ปี ยืนต้นตายอยู่ริมถนนเพชรเกษมสายภูเก็ต-พังงา ขาเข้าตลาดโคกกลอย บริเวณโค้งบ้านต้นแซะ ม.8 ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ซึ่งที่ผ่านมามีกิ่งเล็กกิ่งน้อยหักลงมาบ่อยครั้ง ทำอันตรายแก่ผู้ที่สัญจรไปมาบ่อยครั้งแต่ยังไม่มีการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และสร้างความเสียหายกับสายไฟฟ้าและสายสื่อสารเป็นประจำ จึงได้ร้องขอไปยัง หมวดการทางถลาง แขวงทางหลวงภูเก็ต ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลถนนเส้นนี้มาช่วยแก้ไขปัญหา และได้รับคำตอบว่าจะประสานไปยังกรมป่าไม้ ให้มาจัดการเอาไม้ออกไปเพราะเป็นไม้หวงห้าม แต่ผ่านมาเกือบ 1 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่จัดการแก้ไข หรือจะรอให้เกิดเหตุร้ายกับผู้ใช้รถใช้ถนนก่อนหรืออย่างไร

วันที่ 22 เมษายน 2562 นายสืบศักดิ์ จินดาพล กำนันตำบลโคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านในพื้นที่ นำผู้สื่อข่าวเข้าดูสภาพของต้นยางนาขนาดใหญ่สูงประมาณ 30 เมตร ขนาดรอบลำต้นประมาณ 3 เมตร จำนวน 3 ต้น อายุมากกว่า 100 ปี ยืนต้นตายอยู่ริมถนนเพชรเกษมสายภูเก็ต-พังงา ขาเข้าตลาดโคกกลอย บริเวณโค้งบ้านต้นแซะ ม.8 ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ซึ่งที่ผ่านมามีกิ่งเล็กกิ่งน้อยหักลงมาบ่อยครั้ง ทำอันตรายแก่ผู้ที่สัญจรไปมาบ่อยครั้งแต่ยังไม่มีการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และสร้างความเสียหายกับสายไฟฟ้าและสายสื่อสารเป็นประจำ จึงได้ร้องขอไปยัง หมวดการทางถลาง แขวงทางหลวงภูเก็ต ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลถนนเส้นนี้มาช่วยแก้ไขปัญหา และได้รับคำตอบว่าจะประสานไปยังกรมป่าไม้ ให้มาจัดการเอาไม้ออกไปเพราะเป็นไม้หวงห้าม แต่ผ่านมาเกือบ 1 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่จัดการแก้ไข หรือจะรอให้เกิดเหตุร้ายกับผู้ใช้รถใช้ถนนก่อนหรืออย่างไร

.

.

.

.

.

นายสืบศักดิ์ จินดาพล กล่าวว่า ในอดีตกลุ่มต้นยางนาโบราณขนาดริมถนนทั้ง 2 ข้างทาง จำนวนนับสิบต้นเป็นสัญลักษณ์ให้คนที่ผ่านไปมาได้ทราบว่าที่นี่คือบ้านต้นแซะ ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เมื่อมีการตัดและขยายถนนใหม่ก็มีการเรียกร้องให้อนุรักษ์เอาไว้ไม่ให้ตัดโค่น แต่ขณะนี้ได้ยืนต้นตายแล้ว 3 ต้น และส่ออาการว่าจะตายเพิ่มอีก จึงอยากขอวิงวอนให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาแก้ไขจัดการเสียก่อน เพราะช่วงนี้เป็นช่วงหน้าร้อนและใกล้เข้าสูหน้าฝน ซึ่งจะมีพายุฝนและลมกระโชกแรงบ่อยครั้ง หากโชคร้ายเกิดหักโค่นใส่เด็กนักเรียน นักท่องเที่ยว หรือผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินที่ไม่อาจจะประเมินค่าได้ และสร้างชื่อเสียให้กับจังหวัดพังงาของเรา