svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

ศรีลังกาเพิ่มคุมเข้ม สั่งสอบเคยมีคำเตือนเหตุโจมตี

22 เมษายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ศรีลังกาเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย หลังเกิดเหตุระเบิด 8 ระลอกโจมตีโบสถ์คริสต์และโรงแรมคร่าชีวิต 290 คนเมื่อวานนี้ และยังพบระเบิดลูกหนึ่งซุกซ่อนใกล้สนามบินในช่วงค่ำ นอกจากนี้รัฐบาลจะสอบสวนกรณีเคยมีข่าวกรองเตือนอาจเกิดเหตุโจมตี แต่ขาดมาตรการป้องกัน รวมทั้งมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยแล้ว 13 คน

ทางการศรีลังกาเพิ่มทหารและตำรวจรักษาความปลอดภัยสนามบินในกรุงโคลัมโบเมื่อวาน และบังคับใช้เคอร์ฟิวทั่วประเทศตั้งแต่ 18.00 น.-6.00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่นจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่ล่าสุดได้ยกเลิกเคอร์ฟิวแล้ว ขณะที่ตำรวจเปิดเผยว่า พบระเบิดไปป์บอมบ์ ซึ่งทำจากท่อยาว 1.8 เมตรลูกหนึ่งบนถนนมุ่งหน้าสู่อาคารผู้โดยสารหลักของสนามบินในกรุงโคลัมโบในช่วงค่ำวาน แต่กู้ได้สำเร็จ
ก่อนหน้านั้นในวันเดียวกันเกิดเหตุระเบิด 8 ครั้งโจมตีโรงแรมระดับ 5 ดาว และโบสถ์คริสต์หลายแห่งที่กำลังจัดงานฉลองเทศกาลอีสเตอร์ทั้งในกรุงโคลัมโบและพื้นที่รอบนอก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 290 คนและผู้บาดเจ็บเกือบ 500 คน โดยมีชาวต่างชาติหลายสิบคนอยู่ในจำนวนผู้เสียชีวิตด้วย ซึ่งเป็นเหตุรุนแรงครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ที่สงครามกลางเมืองของประเทศยุติลงเมื่อ 10 ปีที่แล้ว โดยระเบิดลูกแรกเกิดขึ้นตั้งแต่ 8.45 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดย 6 ลูกแรกเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน ได้แก่โบสถ์ 3 แห่งซึ่งรวมถึงโบสถ์ เซนต์ แอนโธนี ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และโรงแรมหรู 3 แห่ง ซึ่งรวมถึง ซินนามอน แกรนด์ ใกล้กับบ้านพักอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีและยังเกิดระเบิดอีก 2 ลูกในอีก 2 ชม.ต่อมา
รัฐมนตรีกลาโหมระบุว่า ระเบิดหลายลูกเป็นการระเบิดฆ่าตัวตาย และเป็นการโจมตีโดยฝีมือกลุ่มหัวรุนแรงทางศาสนา
ขณะนี้ยังไม่มีใครแสดงความรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 13 คน และเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่าคนร้ายมีความเกี่ยวข้องกับต่างประเทศหรือไม่ มีรายงานด้วยว่า ตำรวจ 3 นายเสียชีวิตขณะบุกค้นบ้านผู้ต้องสงสัย และหนึ่งในผู้ต้องสงสัยจุดระเบิดฆ่าตัวตาย ซึ่งเป็นเหตุระเบิดครั้งที่ 8 ของวัน
นอกจากนี้มีการเปิดเผยเอกสารที่ระบุว่า ผู้บัญชาการตำรวจส่งหนังสือลับถึงนายตำรวจระดับสูงเมื่อ 10 วันก่อนเกิดเหตุว่า เจ้าหน้าที่ข่าวกรองต่างชาติมีข้อมูลว่าช่วงนี้ อาจจะมีการโจมตีของมือระเบิดพลีชีพต่อโบสถ์สำคัญๆ
นายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเห แถลงว่า จะมีการสอบสวนว่าเพราะเหตุใดจึงไม่มีการดำเนินมาตรการป้องกันที่เพียงพอ พร้อมกับให้ความมั่นใจว่า ศรีลังกาจะระดมความช่วยเหลือทั้งภายในประเทศและนอกประเทศเพื่อขจัดการก่อการร้ายให้หมดไป
ผู้นำทั่วโลกร่วมแสดงความตกใจและประณามเหตุระเบิด และเลขาธิการสหประชาชาติ อันโตนิอู กูแตร์เรส ระบุว่า ศาสนสถานทั้งหลายควรได้รับความคุ้มครอง และหวังว่า ผู้ก่อเหตุจะถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว และสมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิส ประมุขคริสตจักรโรมาคาธอลิก บอกว่า ขอยืนหยัดอยู่ข้างผู้เคราะห์ร้ายจากความรุนแรงที่โหดร้ายครั้งนี้
ในศรีลังกา มีผู้นับถือคริสต์แค่ราว 6 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ทั้งประเทศ มีกลุ่มที่นับถือศาสนามากมาย โดยส่วนใหญ่เป็นชาวสิงหล ที่ส่วนมากนับถือพุทธ แต่ในช่วงไม่กี่ปีเกิดอาชญากรรมจากความเกลียดชังของพระสงฆ์หัวรุนแรงที่กระทำต่อชาวมุสลิม

logoline