พายุฤดูร้อน-ลูกเห็บ ถล่มเชียงใหม่เสียหายหลายพื้นที่ พบเสียชีวิต 1 ราย

วันที่ 22 เมษายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2562 เกิดพายุฤดูร้อน พัดถล่มในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้เกิดลมแรง ฝนตกหนัก และบางพื้นที่เกิดเป็นพายุลูกเห็บ สำหรับพื้นที่ที่ได้รับความผลกระทบจากพายุฤดู ประกอบด้วย อ.เมืองเชียงใหม่ อ.หางดง อ.สันป่าตอง อ.แม่แตง อ.แม่วาง อ.อมก๋อย อ.ดอยสะเก็ด อ.สันป่าตอง อ.ไชยปราการ และ อ.ดอยหล่อ โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ พื้นที่อ.หางดงและอ.สันป่าตอง

ทั้งนี้  อ.หางดง มีบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด 999 หลังคาเรือน ใน 4 ตำบลคือ ตำบลหนองควาย ตำบลบ้านแหวน ตำบลสันผักหวาน และตำบลน้ำแพร่ สำหรับในพื้นที่อ.สันป่าตอง มีบ้านเรือนได้รับผลกระทบ ทั้งหมด 28 หมู่บ้าน 5 ตำบล ประกอบด้วย ต.ท่าวังพร้าว ต.มะขามหลวง ต.แม่ก๊า ต.ทุ่งต้อม และ ต.บ้านกลาง ล่าสุดทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดเชียงใหม่ ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 33 และหน่วยงานท้องถิ่น ได้ร่วมกันเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่แล้ว
ด้านในพื้นที่ต.สบเปิง อ.แม่แตง พบผู้เสียชีวิต 1 รายคือนางหน่อมือกะ เกิดสุขเลิศ อายุ 59 ปี โดยสาเหตุเกิดจากต้นไม้ใหญ่ล้มทับรถยนต์ 1 คัน ยี่ห้อToyota ทะเบียน ผฉ 8250 เชียงใหม่บนถ.แม่มาลัย-ปาย และในเหตุการณ์นี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 5 ราย โดยทั้งหมดได้รักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพิงค์เชียงใหม่ เบื้องต้นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ประสบภัยแล้ว

สำหรับพื้นอ.อมก๋อย เกิดเป็นพายุลูกเห็บพัดเข้าถล่มส่งผลให้ลูกเห็บทับถมกันจนขาวโพลนเหมือนมีหิมะตกในพื้นที่ ด้านความเสียหายพบว่ามีพื้นที่ได้รับความเสียหายคือ บ้านทุ่งจำเริง ม.3 และ บ้านยางแก้ว ม.10 ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย ล่าสุดหน่วยงานท้องถิ่นได้เข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่แล้ว
นายไพรินทร์ ลิ่มเจริญ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวว่า พายุฤดูร้อนได้สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างในหลายพื้นที่ เบื้องต้นได้ประสานงานกับหลายหน่วยงานเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบแล้ว ซึ่งตอนนี้ก็ได้มีการประสานไปยังนายอำเภอทุกอำเภอช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ของตนเองเฝ้าระวังพายุฤดูร้อน รวมถึงได้มีการประชาสัมนพันธ์ทุกรูปแบบเช่นทางสื่อออนไลน์ก็ได้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านเฟซบุ๊คและโปรแกรมไลน์ และในระบบออฟไลน์เช่นการใช้หอวิทยุกระจายเสียงชุมชน รวมถึงให้ผู้ใหญ่บ้านและกำนันช่วยกระจายข่าวสารอีกด้วย

.

.

.

.

.

.