โดยเป็นเอกสารหลักฐาน อาทิ การยื่นจดทะเบียนบริษัทวี- ลัคฯ เอกสารแจ้งการโอนหุ้น รายงานการประชุมผู้ถือหุ้น รายงานผลประกอบการบริษัทย้อนหลัง 3 ปี ตามที่กกต. ได้มีการประสานขอข้อมูลเพิ่มเติมไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังเห็นว่าพยานหลักฐานที่คณะกรรมการช่วยตรวจสอบสำนวนเสนอมาก่อนหน้านั้นยังไม่ครบถ้วน และการดำเนินการอย่างมีความล่าช้าอยู่
แต่ การพิจารณาของกกต.ยังไม่เสร็จสิ้น โดยจะมีการพิจารณาต่อในการประชุมวันพรุ่งนี้(22เม.ย.) หากเห็นว่าพยานหลักฐานมีน้ำหนักเพียงพอฟังได้ว่าเป็นการกระทำที่อาจขัดต่อกฎหมาย กกต.ก็จะมีมติแจ้งข้อกล่าวหาไปยังนายธนาธร ตามข้อ 55 ของระเบียบกกต.ว่าด้วยการสืบสวน ไต่สวนและวินิจฉัยชี้ขาด 2561 กำหนดไว้ เพื่อให้นายธนาธร มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อคณะกรรมการช่วยตรวจสอบสำนวนฯต่อไปอย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวหากท้ายที่สุด กกต. เห็นว่านายธนาธร มีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ก่อนประกาศรับรองผลเลือกตั้งในวันที่ 9 พ.ค. กกต.ก็จะมีมติ สั่งระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของนายธนาธร ไว้ชั่วคราว เป็นเวลา1ปี (ใบส้ม) ซึ่งเท่ากับว่าจะไม่มีการประกาศชื่อนายธนาธร เป็นผู้ได้รับการเลือกตั้งเป็นส.ส. แต่หากกกต. ดำเนินการตรวจสอบเสร็จหลังประกาศรับรองนายธนาธร เป็นส.ส. กกต. ก็ต้องยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้ความเป็นส.ส. ของนายธนาธร สิ้นสุดลง