ทัพเรือภาค 3 ได้นำคณะสื่อมวลชนไปติดตามการเคลื่อนย้าย "บ้านลอยน้ำ" กลับเข้าฝั่งภูเก็ต โดยบรรยากาศบริเวณหลักเทียบเรือ ทัพเรือภาคที่ 3 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 3 หรือ ศรชล. เขต 3 และสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เตรียมพร้อมลงเรือตรวจการณ์ ต.991 ของกองทัพเรือ เพื่อเดินทางไปยังกลางทะเล บริเวณซึ่งเป็นจุดติดตั้งบ้านลอยน้ำ ห่างจากเกาะภูเก็ตไปประมาณ 22 กิโลเมตร เพื่อติดตามการเคลื่อนย้าย "บ้านลอยน้ำ" ซึ่งสถานะในปัจจุบันถือเป็นของกลางในคดีแล้ว หลังจากทัพเรือภาคที่ 3 และ ศรชล.เขต 3 ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจบ้านลอยน้ำ 2 ครั้ง พบว่ามีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง หากปล่อยไว้อาจจะเกิดปัญหาตามมา จึงได้ใช้อำนาจตามกฎหมาย ศรชล. เข้าทำการรื้อถอน
สำหรับการเคลื่อนย้าย "บ้านลอยน้ำ" กลับเข้าฝั่ง จะใช้วิธีการแยกชิ้นส่วนระหว่างเสาเหล็กที่เป็นทุ่น กับตัวอาคารทรงแปดเหลี่ยมออกจากกัน โดยใช้ทีมเจ้าหน้าที่จากกองโรงงาน ฐานทัพเรือพังงา และชุดปฏิบัติการพิเศษ ทัพเรือภาคที่ 3 รวมทั้งเรือลากจากฐานทัพเรือพังงา โดยวัสดุอุปกรณ์ทั้งหมดเป็นพยานวัตถุในทางคดีอาญา ถือเป็นหลักฐานสำคัญ จึงต้องเก็บมาอย่างสมบูรณ์ พร้อมนำสืบบริเวณพื้นที่ที่พบการกระทำความผิด
ขณะนี้ ผู้ที่ครอบครองบ้านลอยน้ำ คือ นายเชด เอลวาร์โทวสกี้ ชาวอเมริกัน กับภรรยาคนไทย คือ นางสาวสุปราณี หรือ นาเดีย เทพเดช มีสถานะเป็นผู้ต้องหาแล้ว เพราะมีการครอบครองบ้านลอยน้ำกลางทะเล บริเวณพิกัดละติจูด 7 องศา 29.37 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 98 องศา 34.81 ลิปดาตะวันออก ซึ่งก็คือบริเวณทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะราชาใหญ่ ห่างจากเกาะภูเก็ตประมาณ 14 ไมล์ทะเล โดยการสร้างบ้านลอยน้ำเป็นแนวทางของกลุ่ม Seasteading ซึ่งมีการโฆษณาชักชวนให้ผู้ที่ชื่นชอบแนวคิดนี้ มาอาศัยอยู่กลางทะเล ในน่านน้ำสากล เพื่อจัดตั้งชุมชน โดยมีเป้าหมายที่จะสถาปนาเป็น "รัฐอิสระ" หรือเขตปกครองตนเองขึ้นในอนาคต
โดยผู้ครอบครองบ้านลอยน้ำ ถูกแจ้งข้อหากระทำการใดๆ เพื่อให้ประเทศชาติหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของประเทศตกไปอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐต่างประเทศ หรือเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อมเสียไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 และพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต จังหวัดภูเก็ต ได้ส่งสำนวนการสอบสวนให้สำนักงานอัยการสูงสุดดำเนินการรับเป็นคดีแล้ว จึงได้ดำเนินการยึดของกลาง คือบ้านลอยน้ำในวันนี้