svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ยืนยันยังไม่พบตัวชายชาวต่างชาติ-ภรรยาไทย ไม่มีรายงานออกนอกประเทศ

19 เมษายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในภูเก็ตยืนยันยังไม่พบตัวชายชาวต่างชาติและภรรยาคนไทย และไม่มีรายงานการเดินทางออกนอกประเทศตามเส้นทางปกติ ส่วนของบริษัทที่รับแทนสองสามีภรรยาว่าเป็นผู้สร้างบ้าน ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบการขออนุญาตบริษัทอยู่ในประเทศไทย ขณะที่การรื้อถอนวัตถุลอยน้ำคาดว่าจะดำเนินการได้ในเร็วๆ นี้ ด้านทหารเรือ ยืนยันไม่มีการไล่ล่ามตามที่ถูกกล่าวห ทุกอย่างดำเนินการตามอำนาจหน้าที่

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 19 เมษายน 2562 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พล.ร.ต.กฤษณะ กุณฑียะ เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 ผู้แทนผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 3 (ศรชล. เขต 3 ) , นายวันฉัตร ชุหถนอม ผู้แทนอัยการจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดพลเรือนประจำชุดตรวจ จังหวัดภูเก็ต ตามคำสั่ง คสช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต, กอ.รมน.ภูเก็ต, ชุด ชป.สห.รส.ทภ.4,ชุดปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อย จ.ภูเก็ต กรมทหารราบที่ 25, อุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต, เจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต, สำนักงานหนังสือเดินทางจังหวัดภูเก็ต เป็นต้น ร่วมกันแถลง ความคืบหน้ากรณีพบวัตถุลอยน้ำหรือบ้านลอยน้ำในทะเล ห่างจากเกาะราชาใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต ไปประมาณ 12 ไมล์ทะเล ตามแนวทางของกลุ่ม Seasteading ซึ่งได้โฆษณาชักชวนให้ผู้ที่ชื่นชอบในแนวคิดดังกล่าวมาอาศัยอยู่เพื่อจัดตั้งชุมชน โดยมีเป้าหมายที่จะสถาปนาเป็นรัฐอิสระหรือเขตปกครองตนเองขึ้นในอนาคต ซึ่งทัพเรือภาคที่ 3 โดย ศรชล.เขต 3 ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับชายชาวต่างชาติและภรรยาคนไทย ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 119 ภายหลังการประชุมการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 3/2562

ยืนยันยังไม่พบตัวชายชาวต่างชาติ-ภรรยาไทย ไม่มีรายงานออกนอกประเทศ


นายสุพจน์ กล่าวว่า ในส่วนความคืบหน้าของคดีนั้นยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด โดยใช้กฎหมายความมั่นคงในราชอาณาจักร ซึ่งมีโทษร้ายแรง จึงต้องใช้ความรัดกุมในการดำเนินการใดๆ ส่วนการขยายผลที่ต้อเนื่องกับการกระทำความผิดอื่นๆ เช่น การเข้าเมืองซึ่งทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้มีการเพิกถอนวีซ่าชายชาวต่างชาติดังกล่าวไปแล้ว ส่วนของอุตสาหกรรมจังหวัดซึ่งได้ไปตรวจสอบโรงงานที่มีการผลิตวัตถุลอยน้ำดังกล่าวนั้น พบว่าไม่มีการขออนุญาตในการจัดตั้งโรงงานแต่อย่างใด"ส่วนการดำเนินการกับบริษัทที่เข้ามาเกี่ยวข้องในการผลิตวัตถุลอยน้ำทรง 8 เหลี่ยมนั้น เบื้องต้นมี 2 บริษัท ซึ่งมีการขออนุญาตจัดตั้งอยู่ในประเทศไทย แต่จะเกี่ยวข้องในด้านใดบ้างนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่มีประเด็นหนึ่งตรวจสอบพบว่าแล้ว คือ การจัดตั้งโรงงานโดยไม่ได้ขออนุญาต ซึ่งทางอุตสาหกรรมฯ ได้มีการแจ้งทางบริษัทให้ระงับการดำเนินการ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป"

ยืนยันยังไม่พบตัวชายชาวต่างชาติ-ภรรยาไทย ไม่มีรายงานออกนอกประเทศ


นายสุพจน์ ได้กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนอีกแห่งหนึ่งออกมายอมรับว่าเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างบ้านลอยน้ำดังกล่าวเอง โดยที่ 2 สามีภรรยานั้นเป็นเพียงอาสาสมัคร ว่า ประเด็นนี้ทราบเรื่องแล้ว และมีการหารือกันเบื้องต้นแล้ว แต่เนื่องจากเป็นประเด็นใหม่ก็คงต้องมีการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความชัดเจนก่อนที่จะแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบว่าบริษัทดังกล่าวขออนุญาตการจัดตั้งบริษัทในประเทศไทย แต่อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงการตรวจสอบว่าเป็นการหลอกลวงหรือไม่อย่างไร เพราะมีการโฆษณาชวนเชื่อในลักษณะการขายสินค้า โดยอ้างว่าการก่อสร้างอยู่นอกเขตและเป็นทะเลสากล เพื่อจูงใจให้คนมาซื้ออยู่อาศัยโดยอิสระ

ยืนยันยังไม่พบตัวชายชาวต่างชาติ-ภรรยาไทย ไม่มีรายงานออกนอกประเทศ


อย่างไรก็ตามในส่วนของการเคลื่อนย้ายวัตถุลอยน้ำดังกล่าวกลับเข้ามายังฝั่งภูเก็ตนั้น นายสุพจน์ กล่าวว่า คงจะเป็นระยะเวลาอันใกล้นี้ ภายหลังจากกระบวนการยุติธรรมขับเคลื่อนไปแล้ว เพราะวัตถุลอยน้ำดังกล่าวเป็นของกลางที่ใช้ในการกระทำความผิดและยังกีดขวงทางน้ำ ซึ่งเป็นอันตรายต่อการสัญจรของทางการเดินเรือ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการวางแผนร่วมกันระหว่างจังหวัด ทัพเรือภาคที่ 3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินการส่วนนี้
ด้าน พล.ร.ต.กฤษณะ กุณฑียะ เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางทัพเรือภาคที่ 3 ได้มีการไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.วิชิต โดยใช้มาตรา 119 ส่วนกรณีที่ถูกถูกกล่าวหาหรือผู้เสียหายแจ้งว่าทางทหารหรือกองทัพเรือไปไล่ล่าเอาชีวิตหรืออื่นๆ นั้น ทางทัพเรือภาคที่ 3 ขอปฎิเสธว่าไม่เป็นความจริง โดยกองทัพเรือมีหน้าที่ทางทะเลเท่านั้น และดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่ ส่วนการหลบหนีหรือติดตามตัวและควบคุมตัวนั้น เป็นหน้าที่ของฝ่ายบ้านเมือง เช่น สภ.วิชิต, ตรวจคนเข้าเมือง เป็นต้น ในการดำเนินการ

ยืนยันยังไม่พบตัวชายชาวต่างชาติ-ภรรยาไทย ไม่มีรายงานออกนอกประเทศ


ส่วนประเด็นที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับระยะที่พบวัตถุลอยน้ำนั้น พล.ร.ต.กฤษณะ ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบโดยอากาศยาน และทางเรือ แจ้งเป็นตำบลที่แลดลองว่า อยู่ที่ 98 องศา 34.81 ลิปดา E และ 7 องศา 29.37 ลิปดา N ยืนยันว่าไม่มีการผิดเพี้ยน คือ อยู่นอกเขต 12 ไมล์ทะเล อยู่ในเขตต่อเนื่องทางทะเลของประเทศไทย อยู่ในเขต 200 ไมล์ทะเล ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจจำเพาะของประเทศไทย โดยทหารเรือมีหน้าที่ในการดูแลรักษาผลประโยชน์ของชาติและอธิปไตยของชาติทางทะเล โดยมีหน้าที่ถึง 200 ไมล์ทะเล ไม่ใช่แค่ 12 ไมล์ทะเล ดังนั้นไม่ว่าจะอยู่ที่ 18 ไมล์ทะเลก็ยังอยู่ในอำนาจของกองทัพเรือในการรักษาผลประโยชน์ของชาติ
ส่วนของผู้แทนจากตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กล่าวถึงการติดตามตัวชายชาวต่างชาติ และภรรยาคนไทย ซึ่งทราบว่ามีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.ชัยภูมิ ว่า จากการที่ทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองฯ ได้เดินทางไปพบบุคคลทั้งสองตามชื่อที่พักที่แจ้งไว้ เพื่อยื่นเอกสาร เพื่อให้ทราบว่าเขาถูกเพิกวีซ่า ปรากฏว่าไม่พบตัวทั้งสองแต่อย่างใด โดยพบเพียงแม่ของภรรยาที่เป็นคนไทย ซึ่งในส่วนของชายชาวต่างชาตินั้นได้มีการแจ้งเป็นบุคคลเฝ้าดูหรือแบล็กลิสไว้แล้ว หากมีการเดินทางเข้า-ออกตามเส้นทางปกติจะทำทราบตัวได้ และจะได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งจากการตรวจสอบจนถึงปัจจุบันยังไม่เจอตัวแต่อย่างใด ทั้งการแจ้งเดินทางออกนอกประเทศและการแจ้งที่พัก หากเจอตัวก็สามารถควบคุมตัวได้ เพราะถือว่าเป็นบุคคลอยู่ในราชอาณาจักรที่การอนุญาตสิ้นสุดแล้ว เป็นความผิดตามมาตรา 81

logoline