"ปิยะบุตร" เตรียมทำคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษร ส่ง ปอท. 25เม.ย.

เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ปิยบุตร แสงกนกกุล บอกวภายหลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ตามหมายเรียก คดีแถลงการณ์คัดค้านยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เมื่อวันที่ 7 มี.ค.62 ในข้อหา ดูหมิ่นศาล และ นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ว่า

พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา 2ข้อหาคือ ดูหมิ่นศาล และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และจากการเข้าไปดูคำให้การสำนวนคดีต่างๆแล้วพบว่า ฝ่ายกฎหมาย คสช.มอบอำนาจมาให้ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายของ คสช.มาร้องทุกข์กล่าวโทษ ซึ่งความผิดในข้อหาดูหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นที่น่าตั้งข้อสังเกตุว่า หัวหน้า คสช. คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นคู่แข่งทางการเมืองกับพรรคอนาคตใหม่
นายปิยะบุตรยังให้ความเห็นอีกว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน องค์กรผู้ใช้อำนาจอธิปไตย มี ฝ่ายบริการคือ คณะรัฐมนตรี ฝ่ายนิติบัญญัติคือ รัฐสภา และฝ่ายตุลาการ คือศาล เป็นผู้ใช้อำนาจ การตรวจสอบ การวิพากวิจารณ์จึงเป็นเรื่องปกติ และศาลรัฐธรรมนูญเป็นศาบที่ตัดสินคดีที่ส่งผลกระทบทางการเมือง ยิ่งต้องถูกตรวจสอบและวิพากวิจารณ์ได้ และในขณะที่ทำหน้าที่เป็นนักวิชาการ ก็วิพากวิจารณ์คำตัดของศารัฐธรรมนูญมาโดยตลอด ดังนั้นเกรงว่า เรื่องนี้จะเป็นปัญหาในการดำเนินคดี หากถูกตัดสินว่ามีความผิด จะทำให้ในอนาคต การวิพากวิจารณ์จะมีปัญหาที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน


ทั้งนี้ จึงอยากให้การดำเนินคดีกับตนเอง เป็นอุทาหรณ์ว่า กฎหมายไทย ยังมีผลกระทบต่อเสรีภาพของประชาชน และถือเป็นจุดอ่อนของกฎหมายไทย
ส่วนจะเป็นการถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองหรือไม่นั้น นายปิยะบุตร ระบุว่า ตนเองก็มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม และกระบวนการสอบสวนของไทย
โดยหลังจากนี้ นายปิยะบุตร จะทำคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษร มายื่นต่อพนักงานสอบสวนภายในวันที่ 25 เม.ย. และจากการดูสำนวนข้อกล่าวหาแล้ว พบว่า มีหลายข้อความ หลายคำพูดที่กล่าวหา ไม่ตรงกับที่นายปิยะบุตรพูด
ซึ่งเดิมขอระยะเวลาทำคำให้การ 15วัน แต่พนักงานสอบสวนให้ได้แค่ 9วันเท่านั้น พร้อทกันนี้ขอตั้งข้อสังเกตุด้วยว่า พนักงานสอบสวนเองก็ยังไม่สามารถตอบได้ว่าการกระทำของตนเองหมิ่นหรือไม่

หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการ นายปิยะบุตร ได้ขอบคุณมวลชนที่เดินทางมาให้กำลังใจ ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย