หัวใจสำคัญของงาน มหกรรม "พันธุ์บุรีรัมย์" อยู่ที่การได้ร่วมรับฟังเสวนาจากแพทย์ นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ นักกฎหมายระดับประเทศทุกแขนง ที่จะให้ความรู้ ในการนำกัญชาไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน กิจกรรมเวิร์คช็อปวิธีปลูกและแปรรูปนิทรรศการการใช้กัญชาทางการแพทย์แผนไทย, จำลองการปลูกจนถึงกระบวนการสกัดเป็นน้ำมันกัญชา,กัญชาสายพันธุ์ต่างๆ, รวมทั้ง นิทรรศการอาหารจากกัญชารักษาโรค, บูธขายสินค้าสมุนไพรไทยและสุขภาพ, กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้กัญชารวมถึงเปิดให้จดแจ้งครอบครองกัญชาแก่ผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้ สำหรับผู้ป่วยที่มีใบรับรองแพทย์เปิดลงทะเบียนและรับรักษาผู้ป่วยโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ จากการที่พระราชบัญญัติยาเสพติ
เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งมีบทบาท กับการผลักดันในเรื่องนี้ กล่าวว่า จะเกิดประโยชน์เป็นวงกว้าง หากนำกัญชามาใช้ได้อย่างเสรี จะเห็นว่ามีงานวิจัยทางการแพทย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศจำนวนมากยืนยันว่ากัญชาเป็นพืชที่มีคุณค่าทางการแพทย์ หลายประเทศในโลก รวมทั้งประเทศไทยอนุญาตให้มีการผลิตกัญชา เพื่อการแพทย์อย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วอีกทั้งองค์การอนามัยโลกได้ศึกษาวิจัยและระบุว่า สารสกัดในกัญชาไม่ใช่ยาเสพติดแต่มีสรรพคุณรักษาโรค และมีองค์ความรู้ภูมิปัญญาพื้นถิ่นเกี่ยวกับการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์
"ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศที่ประชาชนมีคุณภาพชีวิตดีที่สุดประเทศหนึ่งในโลกและมีมาตรการควบคุมการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ด้านความปลอดภัยไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ ดีที่สุดประเทศหนึ่งของโลก ได้มีการจำหน่ายเครื่องดื่มผสมกัญชาในร้านจำหน่ายสินค้าทั่วไปอย่างเปิดเผยและได้รับความนิยมไม่น้อยกว่าเครื่องดื่มอื่นๆ สิ่งเหล่านี้คือตัวอย่างสินค้าที่คนไทยทำได้และมีตลาดรองรับ อยู่ที่เราจะเลือกว่าเราเลือกเป็นผู้ผลิตเพื่อจำหน่ายสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ หรือ เลือกที่จะเป็นผู้ซื้อ ผู้บริโภคและต้องจ่ายเงินออกไป กัญชาไม่ใช่แค่ยาเพื่อผู้ป่วยแต่เพื่ออุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ทั้งยังเป็นโอกาสใหม่ของคนไทย" เนวิน กล่าว
นพ.สมยศ กิตติมั่นคงผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษามะเร็ง กล่าวว่า กัญชาคือยารักษาโรคไม่ใช่ยาเสพติดซึ่งหลายประเทศพิสูจน์มาแล้วจากงานวิจัยสถานการณ์ในขณะนี้ ไทยยังก้าวช้าไปด้ทั้งที่คนไข้เรากำลังทุกข์ทรมานเดือดร้อน แต่ยังต้องรอวิจัยอีก 5 ปี ปัญหาคือ แล้วเมื่อไหร่จะได้ใช้
"เราแก้ปัญหาง่ายๆได้หลายอย่างใช้ในรูปแบบสมุนไพร ประหยัดเงินค่ายา ไม่สะสมตกค้างในร่างกาย ไม่มีผลข้างเคียง จากการใช้ยาที่เป็นเคมีผมเห็นว่างานพันธุ์บุรีรัมย์เป็นจุดเปลี่ยนของประเทศไทย ที่จะตอบคำถามว่าเราจะไปสู่กัญชาเสรีได้หรือไม่ คนไทยจะใช้กัญชารักษาโรคด้วยตัวเองได้หรือไม่มีวิธีการอย่างไรบ้าง" นพ. สมยศ กล่าว
ศ.ดร.สิริวัฒน์ วงษ์ศิริ ราชบัณฑิตราชบัณฑิตยสภา กล่าวว่า กัญชาเองมีประโยชน์มหาศาลโทษมีน้อยมาก ทั้งด้านอาหารและยา มีสาร 2ชนิดหลักที่ถูกนำมาใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ คือ สาร CBD (Cannabidiol) ซึ่งมีฤทธิ์ลดอาการคลื่นไส้อาเจียนและการบวมอักเสบของแผล และ สาร THC(Tetrahydrocannabinol) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยให้ความรู้สึกผ่อนคลายและลดอาการปวดซึ่งปัจจุบันได้มีการนำกัญชามาสกัดเป็นน้ำมันเพื่อนำสารทั้ง 2 ชนิดนี้มาใช้ประโยชน์ในการรักษาโรคต่างๆ อาทิ โรคลมชัก โรคพาร์กินสัน โรคมะเร็งระยะสุดท้ายและ HIV
"อนาคตกัญชาจะเป็น "สตาร์ทอัพ"แบบออนไลน์ดีกว่า ถั่งเช่าจะทำให้ประเทศไทยและเด็กไทยสามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารยุคใหม่สามารถนำไปใช้พัฒนาต่อยอดประกอบธุรกิจได้อีกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นนำไปใช้ประกอบอาหาร เครื่องดื่ม ขนม ช็อกโกแลต ซอสปรุงรส ฯลฯ ที่สำคัญลงทุนน้อยเป็นพืชเศรษฐกิจแสนล้าน สามารถส่งออกต่างประเทศได้กำไรมหาศาล เช่นเดียวกับที่ประเทศชั้นนำของโลกเริ่มลงมือกันแล้ว"ศ.ดร.สิริวัฒน์ กล่าว
.
.
.
.