พิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบเหตุไฟไหม้ป่าตอง สูญ60ล้านบ.

จากกรณีเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 12 เมษายน 2562 ได้เกิดเพลิงไหม้ร้านขายสินค้าและอาคารพาณิชย์ จำนวน 3 คูหา ซึ่งตั้งอยู่บริเวณปากทางออกป่าตองทาวเวอร์ ถนนทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยรถดับเพลิงของเทศบาลเมืองป่าตองและเทศบาลเมืองกะทู้ รวม 8 คัน รวมถึงรถน้ำของเอกชนจำนวนหนึ่ง ช่วยกันฉีดน้ำดับเพลิงใช้เวลา 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ระหว่างนั้นนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ, ทหาร, ฝ่ายปกครอง, เทศบาลเมืองป่าตอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ความคืบหน้าของเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (13 เม.ย.62) พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ หนูผึ้ง รองผกก.พิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายบุญมา เอียบทรัพย์ รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง พนักงานสอบสวน สภ.ป่าตอง และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาป่าตอง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเพลิงไหม้ดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบจุดต้นเพลิงรวมถึงเก็บหลักฐานอื่นๆ ในที่เกิดเหตุ อีกทั้งได้สอบปากคำผู้ที่เห็นเหตุการณ์เพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูล ในขณะที่เจ้าหน้าที่ฯ กำลังทำงาน ได้มีนักท่องเที่ยวซึ่งเดินผ่านบริเวณดังกล่าวได้ทำการถ่ายภาพอย่างไม่ขาดสาย

.

ขณะที่ พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.ป่าตอง กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบในระหว่างที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบว่า สาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ดังกล่าว น่าจะเกิดจากสายไฟของหม้อแปลงไฟฟ้าลุกไหม้และลามมายังร้านขายสินค้าซึ่งตั้งอยู่ด้านล่างก่อนที่จะลุกลามไปยังอาคารพาณิชย์ดังกล่าว แต่สาเหตุที่แท้จริงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานภูเก็ตตรวจอีกครั้ง
ในส่วนของมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น อาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น จำนวน 3 คูหา ติดกับถนนทวีวงศ์ มูลค่า 50 ล้านบาท และทรัพย์สินภายในมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีร้านค้าเล็กๆซึ่งเป็นขายเสื้อผ้าและของที่ระลึกได้รับความเสียหายอีกจำนวน 9 ร้าน รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาทเศษ แต่โชคดีไม่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กั้นพื้นที่ไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าใกล้ที่เกิดเหตุเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้
อย่างไรก็ตามล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น.วันเดียวกัน (13เม.ย.62) มีรายงานว่า พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ และรับฟังรายงานการสอบสวนด้วยตัวเอง พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเร่งหาสาเหตุที่แท้จริง

.

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในโซเชี่ยลมีเดียได้มีการโพสต์ภาพขณะที่ไฟเริ่มลุกไหม้บริเวณหม้อแปลงไฟฟ้าก่อนลุกลามไปติดสายไฟฟ้าและสายเคเบิลต่างๆ จากนั้นลุกลามไปติดยังร้านค้า ซึ่งหลังจากการโพสต์ภาพดังกล่าวได้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก กรณีที่มีการติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้าอยู่ใกล้อาคารร้านค้าและบ้านเรือนด้วยเกรงจะเกิดอันตรายขึ้นเหมือนเหตุการณ์ดังกล่าว...

.

.

.

.