สุ่มตรวจบริษัทนำเที่ยว 10 แห่งในภูเก็ต

วันนี้ (10 เม.ย.62) ที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.เอกกฤต วิริยะภพ รองผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3  พร้อมด้วยพันโทณัฐภูมิ ฉัตรภูมิ ผบ.พันสห.41 หัวหน้าชุด ชป.สห.รส.ทภ.4, นายอธิพงศ์ แสงศิลป์ นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ภาคใต้เขต 2 จังหวัดภูเก็ต, พ.ต.ต.เอกชัย ศิริ สว.ตร.ทท.3 จ.ภูเก็ต และ ร.ท.วัฒนชัย คล่องประดิษฐ์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อย จ.ภูเก็ต กรมทหารราบที่ 25  ร่วมกันปล่อยแถวกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สุ่มตรวจสอบบริษัทนำเที่ยว จำนวน 10 แห่ง 
ซึ่งบริษัทดังกล่าว ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลวิชิต  และเขตเทศบาลนครภูเก็ต  อ.เมืองภูเก็ต เช่น หมู่บ้านภูเก็ตวิลล่า 3, หมู่บ้านพนาสนธิ์ (เทพอนุสรณ์)  เป็นต้น ภายหลังมีการประชุมสรุปแนวทางการตรวจสอบ เพื่อให้เป็นไปขั้นตอนตามกฎหมาย
ทั้งนี้มีรายงานว่า จากการตรวจสอบเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ซึ่งเน้นเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ การทำรายการนำเที่ยวโดยเฉพาะการกำหนดราคาค่าบริการว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ รวมถึงการใช้มัคคุเทศก์ 

จากการสุ่มตรวจ 10 บริษัท  พบว่า มี 2 บริษัท ไม่เปิดทำการ ขณะที่อีก 8 บริษัท ไม่พบการกระทำผิดแต่อย่างใด โดยทางนายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ฯ ได้กำชับให้เพิ่มความเข้มในการดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งนี้ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตมีบริษัทนำเที่ยวและเคาน์เตอร์ทัวร์ ที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ประมาณ 20,000 บริษัท
พ.ต.อ.เอกกฤต วิริยะภพ รองผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3  กล่าวว่า การปล่อยแถวสุ่มตรวจบริษัทนำเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตนั้น เป็นการสนธิกำลังของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจท่องเที่ยว, สำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ภาคใต้ 2, เจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความสงบ กองทัพภาคที่ 4 และหน่วยงานอื่นๆ เกี่ยวข้อง เพื่อสุ่มตรวจบริษัทนำเที่ยว เนื่องจากภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก 
ดังนั้นเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของการให้บริการด้านการท่องเที่ยว และมีความเป็นธรรมไม่รัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ตลอดจนเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ จึงได้จัดให้มีการสุ่มตรวจดังกล่าว

.

ขณะที่นายอธิพงศ์ แสงศิลป์ นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ภาคใต้เขต 2 จังหวัดภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้จะทำการสุ่มตรวจบริษัทนำเที่ยว จำนวน 10 แห่ง เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของบริษัทนำเที่ยวต่างๆ ว่า มีการขออนุญาตและมีการประกอบการเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ตลอดจนเพื่อให้การให้บริการของบริษัทนำเที่ยวได้มาตรฐาน เป็นธรรมและป้องกันไม่ให้มีการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวเกิดความประทับใจและอยากจะกลับมาท่องเที่ยวภูเก็ตและประเทศไทยอีก
"การสุ่มตรวจในครั้งนี้ จะเน้นบริษัทนำเที่ยวตลาดจีนเป็นหลัก เนื่องจากเป็นตลาดใหญ่และมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก ประกอบกับที่ผ่านมาทางสำนักทะเบียนฯ ได้รับการร้องเรียนจากทั้งผู้ประกอบการและมัคคุเทศก์ด้วยกันเองถึงการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะการใช้มัคคุเทศก์ที่เป็นคนต่างชาติมาทำหน้าที่แทนมัคคุเทศก์คนไทย เนื่องจากอาชีพมัคคุเทศก์ยังเป็นอาชีพสงวน" 
นายอธิพงศ์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ปัญหาการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวและปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญได้ทุเลาลงไปมากแล้ว อันเป็นผลจากการที่กรมการท่องเที่ยวและสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวได้เข้มงวดตรวจสอบเกี่ยวกับการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เช่น การกำหนดราคานำเที่ยว, การใช้มัคคุเทศก์ เป็นต้น อย่างจริงจังและต่อเนื่องมาโดยตลอด.

.

.