น.ส.สาวิกา กล่าวว่า ผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการนั้น ตนได้รับคะแนน 35,615 คะแนน เป็นลำดับที่ 2 ส่วนลำดับที่ 1 ได้ 35,762 คะแนน ห่างกัน 147 คะแนน ซึ่งระหว่างที่มีการนับคะแนนในช่วงกลางคือ เกิดเหตุระบบล่ม และยุติการนับ ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 12 ต. นครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม ประกอบกับที่หน่วยดังกล่าว ระหว่างการขานคะแนน ผู้สังเกตการณ์ไม่สามารถเห็นการขานคะแนนและกระดานเขียนคะแนนได้ชัด
ประกอบกับหลายหน่วยเลือกตั้งหลังปิดหีบมีการรวมคะแนนแบบขีดคะแนนไม่ตรงกับการรายงานผลการนับคะแนน ที่ผ่านมาตนได้เคยไปยื่นต่อ ผอ.กกต.เขต 1 นครปฐม เพื่อขอตรวจสอบคะแนน แต่ ผอ.เขต ระบุว่าเป็นความลับ ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ภายหลัง กกต.กลางก็ได้แจ้งว่าเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน เมื่อตนได้รับผลคะแนนนำมาตรวจสอบ จึงพบว่า คะแนนของตนพลิกกลับมานำ 151 คะแนน เป็นที่หนึ่ง ห่างจากคู่แข่ง 4 คะแนน ดังนั้นจึงขอให้ กกต.นับคะแนนใหม่เพื่อความยุติธรรม
ด้านนายรณวิต กล่าวว่า ขอทวงถามในสิ่งที่พรรคอนาคตใหม่เรียกร้องให้ กกต.เปิดเผยข้อมูลการเลือกตั้งรายหน่วยทั้งหมดให้สาธารณชนทราบ เพื่อความบริสุทธิ์ใจในฐานะองค์กรอิสระ ให้ประชาชนตรวจสอบได้