ในหนังสือคำสั่งระบุว่า เพื่อให้การปฎิบัติราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 แห่ง พ.ร.บ. ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และข้อ 8(1) แห่งระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฎิบัติราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2552
ตลอดคืนที่ผ่านมาจนถึงช่วงสายวันนี้ มีข่าวลือสะพัดว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งย้ายด่วน "บิ๊กโจ๊ก" พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล จากตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปก.ตร. เมื่อเข้าไปตรวจสอบเพจเฟซบุ๊คของ "บิ๊กโจ๊ก" ที่เปิดไว้สำหรับรับเรื่องร้องทุกข์ร้องเรียนจากประชาชน ปรากฏว่ามีการปิดเพจเฟซบุ๊คตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ และไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ทางหน้าเพจ
ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อ "บิ๊กโจ๊ก" ทางโทรศัพท์ แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ทั้งๆ ที่เมื่อวาน "บิ๊กโจ๊ก" ยังเดินทางมาแถลงข่าวที่สำนักงานตำรวจชาติตามปกติ คดีสุดท้ายที่แถลงคือการจับกุมกวาดล้างแก๊งขายสินค้าเถื่อนออนไลน์ สอบถามข้อเท็จจริงกับรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย แต่รองโฆษกก็ไม่รับสาย และไม่สามารถติดต่อได้ จึงยังไม่มีใครยืนยันได้ว่า เรื่องคำสั่งย้ายด่วนเป็นความจริงหรือไม่
สำหรับ "บิ๊กโจ๊ก" เป็นนายตำรวจดาวรุ่งพุ่งแรง ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการ ยศพลตำรวจโท ด้วยอายุที่น้อยมาก และแซงหน้าเพื่อนร่วมรุ่นมาไกล นอกจากดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแล้ว ยังเป็นรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งรับผิดชอบอาชญากรรมประเภทต่างๆ ถึง 20 หน้างาน ดึงตำรวจมือดีมาช่วยงานนับร้อยนาย ทำให้มีผลงานกวาดล้างจับกุมอาชญากรรมประเภทต่างๆ สามารถจัดแถลงข่าวได้ทุกวัน วันละหลายๆ คดี