จี้อังกฤษเลิกคุ้มครอง "สุลต่าน" บูรไน หลังออก กม.แรงลงโทษรักร่วมเพศ

การที่บรูไนหันมาบังคับใช้กฎหมายอิสลาม "ชารีอะห์" ที่มีบทลงโทษรุนแรงต่อคู่เกย์ผู้ที่คบชู้และทำแท้ง ด้วยการปาหินจนตาย ก่อให้เกิดเสียงคัดค้านจากทั่วโลก ที่รวมถึงการบอยคอตโรงแรมที่สุลต่านฮัสนัน โบลเกียห์ ทรงเป็นหุ้นส่วน ล่าสุด ได้เกิดเสียงเรียกร้องในอังกฤษ ให้ยกเลิกการส่งทหารไปคุ้มครองสุลต่าน โดยนับตั้งแต่ปี 2505 อังกฤษได้ส่งทหารไปอารักขาบรูไนจากบรรดาศัตรูทั้งในและนอกประเทศ โดยปัจจุบันมีจำนวน 2,000 นาย รวมทั้งกองพันทหารกุรข่า โดยที่บรูไนออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด

ชาวบรูไน 430,000 คน ถูกมองว่า ได้รับการพะเน้าพะนอมากที่สุดในโลก โดยไม่ต้องเสียภาษี ได้รับการดูแลสุขภาพและการศึกษาฟรี แต่การบังคับใช้กฎหมายชารีอะห์ในสัปดาห์นี้ กลายเป็นการกลับเข้าสู่ยุคมืด ผู้หญิงที่เป็นเลสเบียนจะถูกเฆี่ยนด้วยหวาย 40 ครั้ง ขโมยจะถูกตัดมือข้างขวา แต่ถ้าทำผิดซ้ำจะถูกตัดเท้าซ้าย ท่ามกลางคำถามที่ว่า เหตุใดสุลต่านพระชนมายุ 72 พรรษา ที่ทรงได้รับการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยทหารบก "แซนเฮิร์สต์" มีรสนิยมหรูหราและใช้สินค้าแบรนด์เนมของตะวันตก จึงทรงหันมาใช้กฎหมายที่เข้มงวดและไม่แยแสกระแสต่อต้านจากนานาชาติอย่างนี้ ....