จริงๆ การใช้วาทกรรมเรียกตัวเองว่า "ฝ่ายประชาธิปไตย" ของพรรคการเมืองบางพรรค โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย กับอนาคตใหม่ มีความพยายามแบบจงใจมานานแล้ว ตั้งแต่เริ่มชัดเจนว่าจะมีการเลือกตั้ง ซึ่งที่่ผ่านมาหลายสื่อก็พยายามไม่นำเสนอตาม เพราะมองว่าเป็น "วาทกรรมแบ่งฝ่าย" แต่พรรคการเมืองกลุ่มนี้ก็พยายามตอกย้ำ และพูดทุกครั้งเมื่อมีการแถลงข่าวหรือให้สัมภาษณ์
กระทั่งช่วงหลังเลือกตั้งไม่กี่วันมานี้ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ คุณสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ได้ออกมาขอให้พรรคการเมืองคู่แข่งหยุดสร้างวาทกรรมแบ่งแยกประชาชน พร้อมเรียกร้องให้สังคมทบทวนการใช้วาทกรรมแบบนี้ เนื่องจากพรรคพลังประชารัฐก็มาจากการเลือกตั้งของประชาชน โดย คุณสนธิรัฐ ตั้งคำถามกลับไปยังพรรคการเมืองที่ใช้วาทกรรมนี้ว่า คะแนนเสียงกว่า 8 ล้านเสียงที่ประชาชนเลือกพรรคพลังประชารัฐ ไม่ใช่เสียงที่มาจากประชาชนหรือ
ข้างฝ่ายหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ที่ขะมักเขม้นใช้วาทกรรมประชาธิปไตยกับเผด็จการตลอดช่วงหาเสียง ได้ตอบคำถามกับสื่อมวลชนเมื่อวาน ทำนองว่าถ้าไม่ให้ใช้คำว่าพรรคฝ่ายเผด็จการแล้วจะให้ใช้คำว่าอะไร เพราะพรรคพลังประชารัฐเสนอหัวหน้าคณะรัฐประหารเป็นแคนดิเดตนายกฯ แถมยังใช้ชื่อพรรคตามชื่้อนโยบายขอบรัฐบาล คสช.ด้วยเรื่องนี้จึงกลายเป็นประเด็นโต้เถียงกันไปมาของนักการเมือง ทำให้น่าคิดว่าประชาชนคนเดินถนนทั่วไปคิดเรื่องนี้อย่างไร