นายจุรินทร์รักษาการหัวหน้าพรรคฯยืนยัน อดีต ส.ส. และผู้สมัคร ส.ส.ทุกคน ยังใจเดียวกับพรรคที่จะทำงานร่วมกันต่อไป โดยไม่มีการเคลียใจในที่ประชุม เพราะไม่มีปัญหาอะไรกัน ส่วนจุดยืนจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลนั้น ส่วนตัวยังไม่มีความเห็นเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล เพราะไม่มีการพิจารณาในที่ประชุม แต่เป็นกานแลกเปลี่ยนความเห็นกันเรื่องการฟื้นฟูพรรค ซึ่งการตัดสินใจจะต้องคำนึงถึงหัวใจของประชาชน และคะแนนเสียง 3.9ล้านเสียงที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์
ทั้งนี้ นายจุรินทร์ บอกด้วยว่า เมื่อพีรรคมีมติอย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว เชื่อว่าทุกฝ่ายยอมรับความเห็นได้ และไม่ทำให้พรรคแตกแยก
ทางด้าน นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ บอกด้วย ว่า ที่ประชุมวันนี้คุยเรื่องความชัดเจนของพรรค และแนวทางจะร่วมรัฐบาลหรือเป็นฝ่ายค้านแต่ยังไม่มีข้อยุติ โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนระดับหนึ่ง หลังจากทางคณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับรอง ส.ส. ชุดใหม่ ในวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ หลังจากนั้นทางพรรค จะทำการประชุมโดยเร็ว ภายใน 7-10 วัน เพื่อให้มีมติ ว่า พรรคจะทำหน้าที่อะไรในสภาผู้แทนราษฎรต่อไป และในที่ประชุม กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เสนอให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านอิสระเหมือนในต่างประเทศ โดนอะไรที่เป็นประโยชน์ก็พร้อมจะสนับสนุน ส่วนอะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ก็ให้ทำหน้าที่ค้านเพื่อตรวจสอบถ่วงดุล ทั้งนี้ที่ประชุมวันนี้จะสรุปเพื่อเสนอให้กับกรรมการบริหารพรรค
ทั้งนี้อยากเรียกร้องไปยังพรรคพลังประชารัฐ และพรรคเพื่อไทย หากจะมาติดต่อใครมานั้น ถือว่ายังไม่ใช่มติพรรค และขออย่าเอาพรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมจัดตั้งรัฐบาลแบบตุ๊กตา เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคหลัก แม้ครั้งนี้จะพ่ายแพ้การเลือกตั้ง แต่เชื่อมั่นว่าจะกลับมาฟื้นฟูพรรคให้กลับมาเป็นใหญ่ได้อีกครั้ง
แหล่งข่าวในห้องประชุมร่วม เปิดเผยว่า ที่ประชุมเสียงวันนี้มีการแสดงความเห็นอย่างหลากหลาย และเสียงยังแตก โดย 80% แสดงความเห็นให้ไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะเป็นเสียงส่วนมากที่ประชาชนเลือก ซึ่งกลุ่มที่แสดงความเห็นแนวทางนี้ ส่วนอีก20% ให้เป็นฝ่ายค้านแบบอิสระ
ขณะที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค แสดงความรับผิดชอบ และเสนอความเห็นในที่ประชุม ในฐานะสมาชิกพรรค โดยพูดในเชิงหลักการ ว่า ให้พิจารณาให้ดีหากไปร่วมก็จะเลวร้ายไม่ต่างกัน เพราะมีการคอรัปชั่น และแทรกแซงองค์กรอิสระเหมือนกัน แต่ยังไม่ชัดว่าจะให้ไปในแนวทางไหน