น.ส.กัณณัช กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนได้พาลูกสาวที่เพิ่งจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ส่วนลูกชายเพิ่งจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มารับใบเกรดที่โรงเรียน ขณะที่กำลังจะขับรถออกจากข้างทางที่จอดไว้ริมถนนตรงข้ามโรงเรียน จู่ๆ มีรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นบริโอ้ สีขาว ขับเข้ามาจอดริมถนนหน้ารถของตนอย่างเร็ว และถอยเข้ามาจนเกือบติดหน้ารถของตน ทำให้ไม่สามารถเลี้ยวออกไปได้ ตนจึงตีไฟเลี้ยวขวาเพื่อให้ทราบว่า รถกำลังจะออก ทำให้รถคันดังกล่าวขยับไปข้างหน้าเล็กน้อย แล้วคนขับลักษณะเป็นทอมบอย พร้อมด้วยผู้หญิงจึงลงมาจากรถแล้วมองมาที่ตนด้วยท่าทางไม่พอใจ และเหมือนพูดอะไรบางอย่างด้วย ซึ่งทั้งสองคนพยายามจะข้ามถนนทำให้ตนเลี้ยวรถออกไม่ได้อีก ตนจึงค่อยๆ ขยับรถออกแต่ก็ยังออกไม่ได้เพราะทั้งสองคนก็ยังข้ามถนนไม่ได้ ตนแปลกใจว่าทำไมไม่ข้ามสะพานลอยทั้งที่อยู่ไม่ห่างกันเลย
น.ส.กัณณัช กล่าวอีกว่า หลังจากทั้งสองข้ามถนนไปได้ ทอมได้หันกลับมาตะโกนด่าด้วยถ้อยคำไม่สุภาพ ส่วนผู้หญิงยกนิ้วกลางให้ ตนจึงติดใจว่าทำไมต้องด่า ตนทำอะไรผิด และเห็นว่าทั้งสองเดินเข้าไปในโรงเรียนด้วย จึงเกรงว่าวันข้างหน้าลูกทั้งสองคนจะไม่ปลอดภัย ตนจึงไปรอที่หน้าป้อม รปภ. ในโรงเรียนเพื่อเคลียร์กัน หลังจากทั้งสองเดินออกมาจึงได้คุยกันแต่ทั้งสองพูดจาหยาบคาย
ลูกสาวตนจึงพูดว่า "อย่ามาว่าแม่หนู แม่หนูไม่ผิด คุณนั้นแหละ" สาวทอมจึงด่าลูกสาวว่า "เด็กกวน_ีน" และด่าตนว่า "เป็นแม่ไม่สั่งสอนลูก" แล้วทอมชี้ไปทางลูก พร้อมกับพยายามเดินเข้าหาลูกสาว ตนจึงเข้าไปขวางจนเกิดเหตุการณ์ชุลมุนกัน ทุกอย่างไวมาก ตนได้ยินเสียงลูกๆ ร้องไห้ตะโกนว่าอย่าทำแม่ จากนั้นมีคนตะโกนห้าม และบอกว่าถ่ายคลิปเอาไว้นะ ทำให้ทั้งสองคนจึงได้หลบหนีไป ตนรีบไปดูลูกพบว่าลูกชายมีรอยเท้าเต็มตัว เพราะโดนถีบหลายครั้ง ส่วนลูกสาวถูกต่อยเข้าที่เบ้าตาซ้ายอย่างแรง และมีรอยถูกเล็บข่วนเป็นแผลถลอกที่แขนซ้าย ส่วนตนมีรอยถูกเล็บข่วนที่ใต้คางซ้าย และใต้ตาซ้าย ตนจึงพาลูกๆ ไปตรวจร่างกายที่รพ.เสรีรักษ์ ก่อนจะมาแจ้งความที่ สน.บางชัน
น.ส.กัณณัช กล่าวว่า หลังจากเหตุการณ์นี้มีผู้นำไปลงในโลกโซเชียลจนมีคนเปิดเผยข้อมูลทราบว่าชื่อน.ส.ทิพยรัตน์ เผือกลาดพร้าว อายุ 37 ปี ซึ่งตนจำได้ว่าเป็นหญิงสาวที่มากับทอมคนนั้น และได้หลักฐานเป็นภาพนิ่งที่ถ่ายจากภาพกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าโรงเรียนแต่กล้องจับภาพได้แค่ด้านหน้าโรงเรียนตอนคู่กรณีเดินออกเท่านั้น จึงจะนำไปเป็นข้อมูลมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจรับเรื่องไว้พร้อมให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายก่อนดำเนินการตามขั้นตอนส่งตัวไปให้แพทย์ตรวจอาการบาดเจ็บอย่างละเอียดเพื่อนำมาประกอบสำนวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
.