ยังจำได้ไหม... 28 มี.ค.2556 จวกเละ! รัฐบาล "เจ๊ปู" กู้เงิน 2.2 ล้านล้านขนผัก

กู้ 2.2 ล้านล้านบาท สร้างรถไฟความเร็วสูง ไว้ขนส่งอาหารสด จากแหล่งผลิตถึงมือผู้ซื้อเร็วขึ้น ลดต้นทุนเกษตรกร ผู้บริโภคได้กินของสด
ซึ่งเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อวันนี้ของ 6 ปีก่อน ปรากฏว่าหลังจากนั้น สังคมไทยก็เกิดวาทกรรม "รถไฟความเร็วสูงขนผัก" ออกมาอย่างกว้างขวาง ทั้งชาวเน็ตและบรรดาเซเลบคนดัง แว้น สก๊อย เอาหมด โดยมิได้ทำความเข้าใจถึงเนื้อหาสาระอย่างแท้จริง

เล่าย้อนไปในวันนั้น ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ.... หรือ พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (28 มี.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้นำเสนอแนวคิดของรัฐบาลในการกู้เงินเพื่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อมระหว่างกรุงเทพฯ กับต่างจังหวัด ตอนหนึ่งว่า เพื่อช่วยให้การขนส่งวัตถุดิบจากต้นน้ำไปยังปลายน้ำทำได้รวดเร็วขึ้น ถ้าเป็นอาหารก็จะสดขึ้น ลดการสูญเสีย เป็นการลดต้นทุนของเกษตรกร ผู้บริโภคได้รับอาหารที่สดขึ้นและราคาเป็นธรรม รวมทั้งเป็นการลดต้นทุนอุตสาหกรรมการเกษตรด้วย
"ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นเรามีอุตสาหกรรมต้นน้ำ มีแหล่งวัตถุดิบโดยเฉพาะภาคการเกษตรที่เราต้องพัฒนามากขึ้น ยังไม่ถูกเชื่อมโยงไปสู่แหล่งส่งออกแน่นอน ต้นทุนค่าใช้จ่ายของพี่น้องเกษตรกรก็จะใช้เวลานานและใช้ต้นทุนที่สูงขึ้น หากมีการเชื่อมโยงตั้งแต่ส่วนของห่วงโซ่การผลิตตั้งแต่ต้นน้ำนั่นหมายถึงเราเชื่อมโยงตั้งแต่แหล่งวัตถุดิบ สินค้าต่างๆ ไปยังส่วนกลางน้ำก็คืออุตสาหกรรมการผลิตหรือการแปรรูป และไปยังปลายน้ำก็คือศูนย์การกระจายสินค้า และการส่งออกอย่างเชื่อมต่อกันนั้น ก็จะทำให้ระยะเวลาต่างๆ นั้นลดรวดเร็วขึ้น ลดต้นทุนในการขนส่งโดยรวม และที่สำคัญ ถ้าเป็นอาหาร อาหารก็จะสดขึ้น ลดการสูญเสียซึ่งวันนี้พี่น้องเกษตรกรใช้เวลาในการขนส่งสินค้า โดยเฉพาะพื้นที่ต้นน้ำไปยังปลายน้ำนั้นก็จะมีการสูญเสียมาก ถ้าลดในส่วนนี้ก็เท่ากับลดต้นทุนของพี่น้องเกษตรกรและประชาชนชาวไทยและความรวดเร็วอาหารจะสดขึ้น ผู้บริโภคก็จะได้รับอาหารที่มีคุณภาพที่ดีขึ้น และราคายุติธรรม นะคะ รวมถึงการลดต้นทุนการขนส่งในภาคอุตสาหกรรมโดยรวม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการเกษตรค่ะ"
อย่างไรก็ดี ด้านหนึ่งว่ากันว่า แนวคิดการสร้างรถความเร็วสูงขนอาหารสด น่าจะมาจากนายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงแนวคิดดังกล่าวไว้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2555
ที่สุดเมื่อคนไทยพากันโจมตีสาวปู ด้วยวาทกรรมรถไฟสองล้านล้านขนผัก รุ่งขึ้นสาวปูถึงกับต้องออกมาตอบโต้ผ่านเฟซบุ๊กทันที ยืนยันรถไฟความเร็วสูงทำศก.เติบโตรองรับความเจริญในอนาคต แต่กลับเอาคำพูดไปบิดเบือนเป็นประเด็นการเมือง

วันที่ 29 มี.ค.2556 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ข้อความว่า "ขอขยายความเข้าใจเพิ่มเติม เรื่องแนวคิดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ในการนำประเด็นเรื่องการขนส่งสินค้าเกษตรทางรถไฟความเร็วสูง" หลังจากโดนล้อเลียนคำพูดที่พูดในสภาเมื่อวันที่ 28 มี.ค.นี้ ถึงความจำเป็นในการสร้างรถไฟ ความเร็วสูงเพื่อทำให้ส่งผักได้อย่างรวดเร็วและผักไม่เน่า

"การขนส่งสินค้าโดยรถไฟความเร็วสูงเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้เศรษฐกิจเติบโตรองรับอนาคตและความเจริญ นอกจากนั้นยังเป็นการต่อยอดเศรษฐกิจสำหรับสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นสินค้าที่ต้องการความรวดเร็วในการขนส่ง เพื่อให้สินค้ามีคุณภาพที่ดี สามารถจำหน่ายได้ในราคาที่สูง และผู้บริโภคได้รับสินค้าสินค้าที่สดใหม่ ไม่เน่าเสีย ในต่างประเทศถือเป็นเรื่องปกติในการส่งสินค้าเกษตรโดยใช้การขนส่งที่รวดเร็ว ตัวอย่างเช่น การขนส่งดอกไม้ด้วยเครื่องบิน (ซึ่งประเทศไทยทำมานานแล้ว) และในยุโรปก็ได้พัฒนาโครงการ Euro Carex (ยูโร แคเร็กซ์) โดยใช้รถไฟความเร็วสูงสำหรับขนถ่ายสินค้าโดยเฉพาะ ดังนั้น จึงไม่ใช่เป็นการวาดฝัน แต่เป็นจริงในหลายๆ ประเทศแล้ว และทำให้เกษตรกรสามารถส่งออกสินค้าเกษตรที่ต้องการมาตรฐานสูง ไม่ว่าจะเป็น ผัก ผลไม้ ดอกไม้ ฯลฯ"

"รถไฟความเร็วสูงเป็นการเชื่อมโยงแหล่งการผลิตระดับท้องถิ่นภายในประเทศสู่ภูมิภาคอาเซียน ทั้งยังเป็นการเพิ่มมูลค่าของสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าทางการเกษตรในการส่งถึงตลาดและผู้บริโภค ตลอดจนเพื่อให้ผู้โดยสารโดยเฉพาะคนในต่างจังหวัดประหยัดเวลาในการเดินทางมาทำงานจะได้มีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น ดิฉันเห็นว่า การนำคำพูดของดิฉันไปบิดเบือนเพื่อใช้เป็นประเด็นทางการเมือง เหนือประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประชาชน เป็นเรื่องที่ไม่สร้างสรรค์ เป็นการดูถูกเกษตรกรที่ควรจะได้ลืมตาอ้าปากเสียที รถไฟความเร็วสูงจึงเป็นเครื่องมือที่ทำให้คนไทยมีโอกาสอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำอย่างแท้จริง"
อย่างไรก็ดี แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่เรื่องราวครั้งนี้ก็ยังคงดำเนินต่อไปและ พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท ก็เดินต่อไปไม่ได้ และรัฐบาลปูก็ต้องจบลงหลังจากนั้นไม่นาน
ที่มา คมชัดลึกออนไลน์