รัฐสภาอังกฤษ เข้าควบคุมกระบวนการเบร็กซิทแทนนายกฯ

สภาผู้แทนราษฎรอังกฤษลงมติด้วยคะแนนเสียง 329 ต่อ 302 เสียงเมื่อวานนี้(25มี.ค.) เพื่อเข้าควบคุมกระบวนการเบร็กซิทแทนนางเมย์ และเรียกร้องให้นางเมย์หาทางเลือกอื่นๆ ซึ่งอาจรวมถึงการลงประชามติครั้งที่ 2 เพื่อให้อังกฤษอยู่ในสหภาพศุลกากรของสหภาพยุโรป (อียู) ต่อไป หรือแม้แต่การยกเลิกกระบวนการเบร็กซิท
นางเมย์เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังคงมีคะแนนสนับสนุนไม่เพียงพอที่ข้อตกลงเบร็กซิทของเธอจะผ่านความเห็นชอบในการลงมติครั้งที่ 3 ในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งการแถลงของนางเมย์ต่อสภาสามัญชนหรือสภาผู้แทนราษฎรของอังกฤษมีขึ้นในขณะที่คณะกรรมาธิการยุโรปได้ประกาศว่า ทางคณะกรรมาธิการฯ ได้เสร็จสิ้นการเตรียมการสำหรับการที่อังกฤษจะถอนตัวจากการเป็นสมาชิก อียูแบบไร้ข้อตกลง ในวันที่ 12 เม.ย.นี้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเตือนว่า สถานการณ์ดังกล่าวมีความเป็นไปได้มากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะนี้
ที่ผ่านมา โฆษกของนายกรัฐมนตรีอังกฤษได้แถลงต่อสื่อมวลชนว่า รัฐบาลอังกฤษจะนำข้อตกลงเบร็กซิท ซึ่งนางเมย์ได้ทำร่วมกับสหภาพยุโรป (อียู) ขึ้นสู่การพิจารณาของรัฐสภา ก็ต่อเมื่อข้อตกลงดังกล่าวมีโอกาสได้รับการสนับสนุนมากพอเท่านั้น แต่โฆษกนายกฯอังกฤษปฏิเสธที่จะให้ความเห็นว่า การลงมติดังกล่าวจะมีขึ้นในวันนี้หรือไม่ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากนายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานคณะมนตรียุโรป เปิดเผยเมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมาว่า 27 ชาติสมาชิกของอียูได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้เลื่อนเวลาที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิท) ตามคำร้องขอของนางเมย์
ทั้งนี้ นายทัสก์ เปิดเผยผ่านทางทวิตเตอร์ว่า อียูตกลงที่จะขยายเวลาการบังคับใช้มาตรา 50 ไปจนถึงวันที่ 22 พ.ค. หากรัฐสภาอังกฤษลงมติอนุมัติข้อตกลงเบร็กซิทในสัปดาห์นี้ และหากข้อตกลงเบร็กซิทไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาอังกฤษในสัปดาห์นี้ ทางอียูจะขยายเวลาการบังคับใช้มาตรา 50 ออกไปถึงวันที่ 12 เม.ย.เท่านั้น
นายทัสก์ กล่าวว่าอียูพร้อมที่จะขยายกำหนดเวลาการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป ออกไปอีก 3 เดือน แต่มีเงื่อนไขว่า รัฐสภาอังกฤษจะต้องให้การอนุมัติข้อตกลงเบร็กซิทที่นางเมย์ ทำไว้กับผู้นำอียูก่อนหน้านี้