"ภูมิธรรม" รับ "อนาคตใหม่" ร่วมงาน ทิศทางไปด้วยกันได้
เมื่อเวลา 10.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวตอบรับกับจุดยืนของพรรคอนาคตใหม่ ต่อการแสดงถึงท่าทีพร้อมร่วมงานทางการเมือง พร้อมระบุว่าประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 และการปฏิรูปกองทัพให้เป็นประชาธิปไตย เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยประกาศอย่างต่อเนื่องในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง ขณะที่การยกเลิกคำสั่ง หรือประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ออกตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2557 พร้อมจะดำเนินการหาพบว่าเป็นคำสั่งหรือกฎหมายที่ไม่เกิดประโยชน์และเป็นอุปสรรคต่อการแก้ปัญหาของประชาชน
"ทิศทางของพรรคอนาคตใหม่กับพรรคเพื่อไทยไปกันได้ แต่การพิจารณาหรือประกาศร่วมมือทางการเมือง ผมยอมรับว่ายังประกาศไม่ได้ตอนนี้ เพราะตามเงื่อนไขของกติกาใหม่ต้องพิจารณาในปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเสียงของสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 250 เสียง อีกทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง ยังรอการประกาศรับรองผลการเป็น ส.ส. และกำหนดจะประกาศอย่างเป็นทางการ วันที่ 9 พฤษภาคมดังนั้นพรรคจึงมีเวลาและไม่รีบร้อน ทั้งนี้ผมยอมรับว่าได้หารือกับพรรคการเมืองอื่นๆ ไว้บ้างแล้ว แต่บอกไม่ได้ว่าคุยกับใครบ้าง ขณะที่พรรคการเมืองอื่นอาจต้องคุยกันภายในพรรคของเขาด้วย" นายภูมิธรรม กล่าว
เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวด้วยว่าสำหรับการรวมเสียงตั้งรัฐบาล ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย ที่ได้จำนวน ส.ส. มากถึง 137 มีสิทธิรวมเสียงตั้งรัฐบาล และไม่ใช่ถือคะแนนนิยมที่ประชาชนลงคะแนนให้ ตามที่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้จำนวน ส.ส. เขต เพียง 90 เสียง ให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามพรรคยืนยันจะไม่รวมงานการเมืองกับ 2 พรรคการเมืองที่สนับสนุนการยึดอำนาจและรัฐประหาร
เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวย้ำด้วยว่า สำหรับจุดยืนของพรรคเพื่อไทยต่อการจัดตั้งรัฐบาล คือ ยึดเจตจำนงของประชาชนและการแก้ปัญหาให้ประชาชนและประเทศพ้นจากวิกฤตเป็นหลัก จะไม่นำประเด็นเรื่องผลประโยชน์ของพรรคหรือการต่อรองเรื่องตำแหน่งตามความทะยานอยากของบุคคลหรือพรรคการเมืองใด
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรียกแกนนำพรรคการเมืองไปเจรจาที่บ้านพัก เพื่อจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น เพราะ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้อยู่ในกระบวนการทางการเมือง อีกทั้งตนมองว่าหากเรื่องดังกล่าวจะเป็นจริงอาจสร่างความเสียหาย เพราะไม่เคารพต่อเจตนารมณ์ของประชาชนฐานะผู้เลือกตั้ง
เมื่อถามต่อว่ากรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯฝ่ายกฎหมาย ระบุว่าการรวมเสียงตั้งรัฐบาลไม่จำเป็นต้องยึดเสียงข้างมากของจำนวน ส.ส.นายภูมิธรรม กล่าวว่า นายวิษณุให้ความเห็นในทิศทางเดียวกับแกนนำพรรคพลังประชารัฐ อย่างไรก็ตามตนขอเรียกร้องให้นายวิษณุทบทวนการให้ความเห็นตามกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญว่าสิ่งที่เคยระบุนั้นเป็นประโยชน์กับสังคม ถูกต้อง และตรงตามจริยธรรมของกฎหมาย และเป็นสิ่งที่ยึดหลักนิติธรรมหรือไม่
นายภูมิธรรม กล่าวเรียกร้องไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เร่งชี้แจงและตอบคำถามกับสังคม โดยเฉพาะจำนวนผู้มาออกเสียงเลือกตั้ง, บัตรเลือกตั้งที่เป็นคะแนนน, บัตรเสีย, บัตรที่พิมพ์เกินจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ให้เกิดความชัดเจน เพราะกรณีที่ กกต. แถลงข่าวและไม่ได้ตอบคำถามข้อสงสัยประชาชน ตนเชื่อว่าจะกระทบต่อความเชื่อมั่นในการเลือกตั้งและไม่ได้รับความเชื่อถือจากต่างประเทศ
"ผมคาดหวังกับองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่โดยไม่มีผู้ใดครอบงำ และเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่ถ่วงดุล และตรวจสอบ ดังนั้นกกต. รวมถึงเลขาธิการ กกต. ต้องชี้แจงตามประเด็นที่ถูกครหาให้ชัดเจน" นายภูมิธรรมกล่าว.