เก็บศพ "ร.ต.อ.วัชรินทร์" กดดันตำรวจ

จากเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธสงคราม ยิง ร.ต.อ.วัชรินทร์ เบญจทศวรรษ อดีตตำรวจนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ช่วยเหลือเหยื่อในคดีอาญา เสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยพี่สาวผู้ตายร้องขอให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาช่วยเหลือเพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากคดีที่ ร.ต.อ.วัชรินทร์ เข้าไปช่วยเหลือเหยื่อในคดีอาญา ทำให้มีตำรวจโดนย้าย และ สตช.ถูกฟ้องเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท และทำให้มีผู้เสียผลประโยชน์จากการเรียกเก็บส่วย จำนวนมหาศาลสำหรับศพ ร.ต.อ.วัชรินทร์ ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดโรงวาส มีกำหนดฌาปนกิจ ในวันที่ 28 มีนาคม นี้ แต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่ญาติขอให้พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เข้ามาช่วยเหลือในวันนี้ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ มอบหมายให้ตัวแทนไปพบเครือญาติ เพื่อปรึกษาแนวทางการดำเนินคดีเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับอดีตตำรวจนักต่อสู้ด้านสิทธิมนุษยชน โดยหากญาติไม่ขัดข้องจะเก็บศพไว้จนกว่าจะติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีด้านการติดตามกลุ่มคนร้ายมีรายงานว่า ล่าสุดกล้องที่ สนง.ไทยประกัน พบรถต้องสงสัยอีกคันเป็น ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ขับตามรถ ร.ต.อ.วัชรินทร์ ไปอีกคัน นอกจากรถเก๋งอัลเมร่า คันสีดำของกลุ่มมือปืน ถ้าได้ทะเบียนมา จะทราบว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่ในด้านคดี ตำรวจชุดสืบสวน สรุปปมที่น่าจะนำมาสู่การจ้างมือปืนมืออาชีพมาลงมือฆ่า ร.ต.อ.วัชรินทร์ ดังนี้1.ขัดแย้งกับตำรวจ มีแตกแขนงออกไปมากมายหลายกรณี/คดี2.ปมขัดผลประโยชน์คนมีสี 3.ปมชู้สาว4.ปมธุรกิจเถื่อน5.ปมหนี้สินและ 6.ปมมรดก/ครอบครัวทั้งนี้ จากทั้ง 6 ปมข้างต้น แหล่งข่าวใกล้ชิดญาตผู้ตายไม่เชื่อว่าปมชู้สาว จะสามารถจ้างวานมือปืนระดับนี้ได้ ส่วนปมหนี้สิน นั้น เมื่อดูตามพินัยกรรม ร.ต.อ.วัชรินทร์ มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน โดยตำรวจชุดสืบสวน ขอพินัยกรรมจากภรรยา ร.ต.อ.วัชรินทร์ ไปตรวจดูปมทรัพย์สิน แล้วส่วนปมชู้สาว หลังจาก ร.ต.อ.วัชรินทร์ ถูกปลด ผู้กองวัชรินทร์ เบิกเงินเก็บในส่วนของลูกๆ มาใช้จ่ายเพื่อสู้คดีเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตัวเอง ตอนแรกภรรยาไม่เข้าใจว่าสามีทำไมต้องต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีตนเอง จึงเป็นเหตุให้หย่าร่างกันในล่าสุด แต่ภายหลังทั้งคู่ปรับความเข้าใจกันแล้ว และกำลังจะกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง แต่สุดท้าย ร.ต.อ.วัชรินทร์ ก็มาถูกยิงตายเสียก่อน
แหล่งข่าวใกล้ชิดครอบครัวผู้กองวัชรินทร์ เปิดเผยว่า ถ้าจะประมวลเหตุการณ์และเหตุผลแล้ว น่าจะมี 2 ปม ใหญ่ คือ 1.ขัดแย้งตำรวจ 2.ขัดผลประโยชน์คนมีสี ซึ่งมีทั้งคดีฟ้องร้อง คดีช่วยเหลือด้านสิทธิมนุษยชนกับเหยื่อในคดีอาญา 3-4 ราย คดีเหล่านี้อยู่ระหว่างการฟ้องร้องในศาล