จากการตรวจสอบชันสูตรพบความผิดปกติ ดังนี้
1. จากการเก็บอวัยวะภายในพบว่ามีแมลงวันบางส่วน
ที่ตอมอวัยวะตายกะทันหัน ซึ่งคาดว่าอาจจะมีสารเคมี สารพิษ หรือสารปนเปื้อนอื่นๆ
2. พบร่องรอยการสู้กันในธรรมชาติ โดยพบแผลบริเวณเหนือโคนหาง ข้างอวัยวะเพศ และหน้าผาก แต่ไม่สามารถบ่งบอกระยะเวลาการเกิดแผลได้
3. พบว่า กล้ามเนื้อด้านในบริเวณซี่โครงมีรอยช้ำผิดปกติ (สีคล้ำ)
4. ปลายงวงมีแผลคล้ายรอยไหม้ คาดว่าน่าจะเกิดจากการสัมผัสความร้อน ท่อไอเสียรถยนต์ พื้นถนน หรือ สารเคมี
5. ตรวจพบบาดแผล บริเวณโคนหาง
6. บางส่วนของลำไส้พบว่าเกิดการอักเสบ
7. พบเลือดคั่งภายในอวัยวะเพศ ตับ ม้าม และ ปอดบางส่วน
ทั้งนี้ ทีมสัตวแพทย์ สัตวบาล ยังไม่สามารถ สรุปสาเหตุการตายที่ชัดเจนได้ ซึ่งต้องรอผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ กรมปศุสัตว์ และ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน
.
จากนั้นเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน ทำการถอดเก็บงาทั้ง 2 ข้าง (งาข้างซ้าย ยาว 48 ซม. เส้นรอบวงของโคนงา ยาว 16 ซม. และ งาข้างขวา ยาว 44 ซม. เส้นรอบวงของโคนงา ยาว 15.5 ซม. โดยเก็บรักษาไว้ ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน และได้ทำการฝังกลบซากช้างป่าด้วนใหญ่ ตามหลักวิชาการ เรียบร้อยแล้ว
.
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2562 เมื่อเวลา 17.00 น ที่ผ่านมาเฟซบุ๊กเพจเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนได้ ได้โพสต์ภาพพร้อมระบุ ข้อความ ไว้อาลัย ช้างป่า ว่า "ด้วนด่านลอย" ผู้ริเริ่มการตั้งด่านลอยที่โด่งดังจนมีลูกศิษย์ลูกหาหลายรายลอกเลียนแบบ ก่อนหน้านี้ีพบว่ามีแผลบริวณปลายหาง เป็นหนอง หางหลุดขาด คาดว่าแผลติดเชื้อ ล่าสุดล้มแล้ว....ขอบคุณที่ด้วนเป็นครูให้เราได้เรียนรู้ศึกษาพฤติกรรม