วันที่ 20 มีนาคม 2562 ที่ วัดคูเมือง บ้านหนองคู ตำบลหนองครก อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ได้มีพี่น้องประชาชน ญาติโยม ได้เดินทางมาร่วมกันทำบุญเนื่องในวันพระกันตั้งแต่เช้า ซึ่งจะเป็นประจำในทุกๆ วันพระ มักจะมีญาติโยมนิยมเข้าวัดทำบุยกันเนจำนวนมาก ทั้งการร่วมทำบุญใส่บาตร ถวายปัจจัยที่ตั้งเป็นต้นผ้าป่า เพื่อซื้อดินถมพื้นที่บริเวณที่จะสร้างศูนย์ผู้สูงอายุภายในวัด ให้เป็นแหล่งพบปะ ปฎิบัติธรรม นั่งสมาธิ ศูนย์เรียนรู้รวมทั้งตั้งเป็นโรงเรียนวัดของผู้สูงอายุ
จากนั้นได้ร่วมกันถวายภัตราหารเช้า ร่วมสวดมนต์ไหว้พระ รับศีลรับพรจากพระสงฆ์ ฟังธรรมะดีดีจากพระคุณเจ้า รวมทั้งเน้นย้ำให้ญาติโยมได้รักษาสิทธิ์ของตนเอง ในการเตรียมตัวไปลงคะแนนเลือกตั้งผู้แทนราษฎรที่ตนเองคิดตั้งใจเอาไว้ อย่าได้นอนหลับทับสิทธิ์ ซึ่งภายหลังจากที่ญาติโยมได้เดินทางกลับไป ทางวัดก็ได้นำอาหารมาแจกจ่ายแก่สัตว์เลี้ยงที่มีผุ้นำมาปล่อยไว้ที่วัด โดยเฉพาะสุนัข โดยมีพิเศษ ได้มีลิงป่าที่เข้ามาอาศัยอยู่ที่วัดนานแล้ว 1 ตัว และมีพฤติกรรมพิเศษ คือ หยอกเหย้า เล่นหัว อยู่กับฝูงสุนัข ซึ่งผิดธรรมชาติของลิง กับ สุนัข ที่ส่วนใหญ่จะไม่ถูกกัน.
.
พระครู อภินันท์ธรรมพินิจ เจ้าอาวาสวัดคูเมือง เปิดเผยว่า ที่วัดคูเมือง จะมีญาติโยมนำสุนัขมาปล่อยให้วัดเลี้ยงดูกันมากพอสมควร กว่า 20 ตัว และพิเศษอยู่ๆ ก็มีลิง 1 ตัว มาอาศัยเป็นลิงใครก็ไม่รู้ มาจากไหนก็ไม่รู้ แต่ความพิเศษก็คือ จะมาสนิทสนมกับฝูงสุนัข มาหยอกเหย้ากัน และมีแม่สุนัขบางตัวที่คลอดลูกออกมา เจ้าลิงตัวนี้ก็จะคอยดูแลลูกสุนัขดังกล่าว เสมือนลูกตนไปด้วย ในบางช่วงที่มีฝูงสุนัขจากนอกวัด เข้ามามีเรื่องกันสุนัขที่วัด ไล่กัดกัน เจ้าลิงตัวนี้ก็จะคอยปกป้องทั้งลูกสุนัข และคอยไล่เข้ากัดต่อสู้ช่วยฝูงสุนัขที่วัดเข้าขับไล่สุนัขจากนอกวัดให้ออกไปนอกวัดด้วยเช่นกัน
ญาติโยมที่มาวัดได้พบเห็นก็พบว่าเป็นเรื่องแปลก และมักจะมาแอบถ่ายรูป เพื่อนำไปลงเฟส ลงในลาย ส่งไปให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้ดูกัน ส่งผลให้มีผู้คนมาร่วมทำบุญที่วัดเพิ่มขึ้น และมาแอบดูเจ้าลิงที่ดูแลสุนัข หยอกกับสุนัข เป็นภาพเพื่อนรักกันกับฝูงสุนัขที่วัดแห่งนี้ไปตลอดเช่นกัน
วัดคูเมือง นับเป็นวัดเก่าแก่ของจังหวัดศรีสะเกษ สาเหตุที่ตั้งชื่อว่า วัดคูเมือง ก็เพราะเคยมีคนพบประวัติของกำแพงเมืองศรีสะเกษ ที่มีการสร้างเป็นคูน้ำ กั้นระหว่างนอกเมืองกับในตัวเมืองศรีสะเกษสมัยโบราณ หลังจากที่ย้ายเมืองมาจากเมืองขุขันธ์ ซึ่งทุกวันแม้คูเมืองจะสูญหายไปแล้ว แทบไม่เหลือร่องรอย แต่ความศักดิ์สิทธิ์ ความขลังยังอยู่ และมีหลายคนที่มาทำบุญที่วัดคุเมืองแห่งนี้ มาไหว้พระ มาขอพร มารดน้ำมนต์ ก็มักจะประสบสำเร้๗ในอาขชีพ การงาน ค่าขายร่ำรวยกันไปมากเช่นกัน....
.
.
.
.
..