svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย แต่งตั้ง ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด คนใหม่

18 มีนาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ประกาศแต่งตั้ง มร. กัลดริค ดอนเนอซาน เป็นผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด ของบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เข้ารับตำแหน่งต่อจากมร. ลาร์ส นีลเซ่น ซึ่งย้ายไปรับตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด ภูมิภาคตะวันออกกลางของบีเอ็มดับเบิลยู ณ ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562 เป็นต้นไป

มร.ดอนเนอซาน ได้ร่วมงานกับบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มานานกว่า 15 ปี โดยก่อนเข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการ

ฝ่ายขายและการตลาด ของบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย มร. ดอนเนอซานเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ
ฝ่ายขายประจำภูมิภาค บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ณประเทศออสเตรีย ดูแลบริหารงานโดยรวมส่วนภูมิภาค ครอบคลุม 9 ประเทศในยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ ในตำแหน่งใหม่นี้ มร. ดอนเนอซานจะรับผิดชอบการบริหารและพัฒนาภาพรวมของการตลาดและการขายของบีเอ็มดับเบิลยูในประเทศไทยรวมถึงการบริหารแบรนด์ การวางแผนการขาย การวางกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์และการสื่อสารการตลาดสำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูทั้งรุ่นนำเข้าและรุ่นประกอบในประเทศไทย


 

มร.คริสเตียน วิดมานน์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า "ผมมีความยินดีที่มร. กัลดริค ดอนเนอซานได้มาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวบีเอ็มดับเบิลยู ในประเทศไทยซึ่งในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด มร. ดอนเนอซานจะมีบทบาทที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งในการบริหารและวางกลยุทธ์ด้านการขายและการตลาดเพื่อร่วมผลักดันความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยูประเทศไทยในปีนี้และปีต่อ ๆ ไป ซึ่งผมมั่นใจว่าประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านการขายและการตลาดของมร. ดอนเนอซานจะช่วยให้เราสามารถสร้างการเติบโตได้อีกมากมายในตลาดยนตรกรรมพรีเมียมของประเทศไทย"


 

"และในโอกาสนี้ผมขอแสดงความยินดีกับ มร.ลาร์ส นีลเซ่น สำหรับตำแหน่งใหม่ ณ ดูไบ สหรัฐอาหรับ
เอมิเรตส์ โดยตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา มร. นีลเซ่นไม่เพียงเป็นเรี่ยวแรงที่สำคัญในการขับเคลื่อน
การเติบโตของยอดจำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูในประเทศไทยซึ่งได้ประสบความสำเร็จด้วยตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์และอัตราการเติบโตสูงที่สุดในเครือข่ายบีเอ็มดับเบิลยูทั่วโลกถึงสองปีซ้อนในปี2560 และ 2561 แต่ยังได้แสดงถึงความทุ่มเทและความสามารถในการบริหารและสนับสนุนโครงการของสายงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องในนามของคณะผู้บริหารบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ผมขอขอบคุณมร. นีลเซ่นและขอให้เขาประสบความสำเร็จกับตำแหน่งใหม่ในครั้งนี้"

 

 

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลกเราผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ, โรลส์-รอยซ์และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด โดยมีเครือข่ายการผลิต 30แห่งใน 14 ประเทศอีกทั้งยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายและบริการมากกว่า 140ประเทศทั่วโลก

 




ในปี พ.ศ. 2561 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มียอดขายรถยนต์ 2,490,000 ล้านคันและมอเตอร์ไซค์กว่า 165,000 คันทั่วโลก กำไรสุทธิในปีงบประมาณ2560 ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป อยู่ที่ 10.655 พันล้านยูโร จากรายได้รวมทั้งหมด 98.678พันล้านยูโร

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปมีพนักงานทั้งหมด 129,932 คนทั่วโลก

 

ความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีสร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และให้บริการกับลูกค้าอย่างดีที่สุดนอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนโดยคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิตอีกด้วย

 




บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นสาขาของ BMW AG ประเทศเยอรมนีก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2541ประกอบด้วย สามบริษัท ได้แก่ บริษัทบีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัดรับผิดชอบด้านการขายและการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป บริษัท บีเอ็มดับเบิลยูแมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัดรับผิดชอบด้านการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยูและบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย)จำกัด รับผิดชอบด้านบริการทางการเงินสำหรับผู้จำหน่ายรถยนต์และลูกค้าบุคคล

 

ในปี 2561 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยสร้างสถิติความสำเร็จเป็นประวัติการณ์ด้วยยอดส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูได้เป็นสถิติใหม่ที่12,036 คัน ซึ่งสูงกว่าปีก่อนหน้าถึง 20%และยังนับเป็นอัตราการเติบโตที่สูงที่สุดในเครือข่ายของบีเอ็มดับเบิลยูทั่วโลกเป็นปีที่สองติดต่อกัน ส่วนยอดการส่งมอบรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดในประเทศไทยก็เพิ่มสูงขึ้นถึง122% ขณะที่มินิและ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดมียอดการส่งมอบรถตลอดปีสูงเป็นสถิติใหม่เช่นกันที่ 1,051 คัน(เพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อนหน้า) และ 2,154 คัน (เพิ่มขึ้น 8%) ตามลำดับ




 

ในด้านการผลิต โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปแมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นเครื่องสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของ

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่มีต่อตลาดในทวีปเอเชียโดยเฉพาะตลาดประเทศไทย ว่าเป็นตลาดที่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญและด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ตั้ง ฐานการผลิตที่แข็งแกร่งและพนักงานผู้เชี่ยวชาญในด้านยนตรกรรม ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่งประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการประกอบยนตรกรรมของบีเอ็มดับเบิลยูในภูมิภาคอาเซียนที่ผ่านมานอกจากนี้โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทยมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายกระบวนการประกอบภายในโรงงานและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นนอกจากนี้สืบเนื่องจากการจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมากเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตในประเทศและเพื่อส่งออกคิดเป็นมูลค่ากว่า 4พันล้านบาทต่อปีบีเอ็มดับเบิลยูจึงจัดตั้งสำนักงานจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ขึ้นในประเทศไทยด้วยเพื่อจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์จากซัพพลายเออร์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนเพื่อรองรับเครือข่ายการผลิตของบีเอ็มดับเบิลยู 30 แห่ง ใน 14 ประเทศทั่วโลก

 




บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทยสามารถประกอบรถยนต์รุ่นต่างๆ ทั้งหมด 12 รุ่น ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 Gran Turismo บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 บีเอ็มดับเบิลยู X1 และบีเอ็มดับเบิลยู X3 สำหรับบีเอ็มดับเบิลยูมอเตอร์ราด ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS บีเอ็มดับเบิลยูF 750 GS บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS บีเอ็มดับเบิลยูR 1200 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR และ บีเอ็มดับเบิลยู S1000 XR นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่งประเทศไทยยังขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด 2 รุ่นในประเทศไทย ได้แก่บีเอ็มดับเบิลยู 530e และบีเอ็มดับเบิลยู 740Le

logoline