ตำรวจ ยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างน้อย 49 คน ซึ่ง 41 คนเสียชีวิตที่มัสยิด อัล นูร์ และอีก 7 คนที่มัสยิดลินวู้ด ส่วนอีกคนเสียชีวิตที่โรงพยาบาล และมีผู้บาดเจ็บรวมอีก 48 คน ส่วนมือปืนชาวออสเตรเลีย วัย 28 ปีถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม และจะถูกนำตัวขึ้นศาลในเช้าวันเสาร์ ตำรวจระบุว่า ผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 คน ซึ่งมีผู้หญิงรวมอยู่ด้วย 1 คนไม่ได้อยู่ในบัญชีเฝ้าจับตาของตำรวจ
ส่วนมือปืนออสเตรเลียโพสแถลงการณ์ยาว 87 หน้าในทวิตเตอร์ก่อนลงมือ โดยระบุว่า เขามีแรงบันดาลใจจากมือปืนหลายคน เช่น แอนเดอร์ส เบรวิก ที่วางระเบิดและกราดยิงในนอร์เวย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 77 คน เมื่อปี 2554 เขาเป็นพวกเกลียดชังชาวมุสลิม และชื่นชมว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเป็นสัญลักษณ์ของคนผิวขาวยุคใหม่
นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น บอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการก่อการร้ายที่มีการวางแผนอย่างดี และเป็นหนึ่งในวันมืดมนที่สุดของประเทศ พร้อมทั้งสั่งยกระดับการเตือนภัยคุกคามจากระดับต่ำสู่ระดับสูงแล้ว และบอกว่า ผู้ก่อเหตุรุนแรงเช่นนี้จะไม่สามารถอยู่ในนิวซีแลนด์ได้
จากเหตุการณ์ยิงสังหารหมู่ที่คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์มากที่สุดนับตั้งแต่เหตุกราดยิง 13 ศพในเมือง อราโมนา เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ทำให้นิวซีแลนด์อาจต้องทบทวนเรื่องกฎหมายควบคุมปืนให้มีความเข้มงวดมากขึ้น โดยปัจจุบันเจ้าของปืนต้องขออนุญาตครอบครองปืน แต่ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนปืน ผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปสามารถซื้อปืนได้ โดยต้องผ่านการตรวจสอบประวัติจากตำรวจ
ขณะที่ชุมชนชาวมุสลิมในหลายประเทศร่วมแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ในนิวซีแลนด์ และวิตกว่าอาจเกิดเหตุโจมตีมัสยิดในประเทศอื่นๆ ตามมา พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มความคุ้มครอง ล่าสุดกรุงลอนดอนของอังกฤษ ซึ่งมีชุมชนมุสลิมขนาดใหญ่เพิ่มกำลังตำรวจลาดตระเวนมัสยิดแล้ว