เหตุกราดยิงครั้งนี้เริ่มขึ้นภายในมัสยิด อัล นูร์ ในเมืองไครสต์เชิร์ช เมื่อเวลาเกือบ 13.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยมือปืนที่คาดว่าเกิดในออสเตรเลียเรียกตัวเองว่า "เบรนตัน ทาร์แรนต์"ไลฟ์สดหรือถ่ายทอดสด เหตุการณ์ยาว 17 นาที โดยเริ่มตั้งแต่ขับรถไปยังมัสยิด และจอดรถ ซึ่งภายในมีอาวุธและเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง เขาพกอาวุธเต็มพิกัดและเดินไปยิงเหยื่อรายแรกที่ประตูมัสยิด ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าได้ยินเสียงปืนราว 50 นัดจากปืนกึ่งอัตโนมัติภายในมัสยิดและมีคราบเลือดกระจายทั่วบริเวณ ผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่า มีคนถูกยิง 15 คน และมีเด็กด้วย ขณะที่สื่้อรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน
มัสยิดแห่งนี้รองรับผู้แสวงบุญได้ 300 คน รวมทั้งทีมนักกีฬาคริกเก็ตจากบังกลาเทศที่ไปเข้าร่วมการแข่งขันในนิวซีแลนด์ และต้องหนีตายเอาชีวิตรอดนอกจากนี้ ยังมีรายงานเหตุกราดยิงที่ลินวู้ด มัสยิด ที่อยู่ใกล้เคียง กับบริเวณด้านนอกโรงพยาบาลไครสต์เชิร์ช และพบระเบิดหนึ่งลูกในรถยนต์ ห่างจากลินวู้ด มัสยิด 3 กม.
ตำรวจเตือนประชาชนให้อยู่ภายในบ้านและแจ้งเจ้าหน้าที่หากพบพฤติกรรมน่าสงสัย และเตือนให้มัสยิดทุกแห่งทั่วประเทศปิดทำการ และชาวมุสลิมอย่าเพิ่งไปมัสยิดในระยะนี้ ขณะที่มีรายงานผู้ถูกควบคุมตัว 4 คนแต่ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นคนร้ายหรือไม่และเชื่อว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุหลายคน
มือปืนที่เชื่อว่าเป็นชายชาวออสเตรเลีย ได้โพสต์แถลงการณ์ยาว 87 หน้าในทวิตเตอร์ ก่อนลงมือ โดยระบุว่า เป็นการก่อการร้าย และได้แรงบันดาลใจจากมือปืนหลายคน เช่น แอนเดอร์ส เบรวิก ที่วางระเบิดในกรุงออสโล และกราดยิงบนเกาะอูโทย่าของนอร์เวย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 77 คน เมื่อปี 2554 เขาประกาศว่าไม่ชอบชาวมุสลิม และเกลียดชังคนที่เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลาม โดยบอกว่า เป็นพวกคนทรยศ ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้่ มาจากการเสียชีวิตของเอ็บบ้า เอเกอร์ลุนด์ เด็กนักเรียนหญิงในสวีเดนในเหตุก่อการร้ายที่กรุงสต็อกโฮล์ม เมื่อเดือนเมษายน ปี 2560
นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น แถลงว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นหนึ่งในวันมืดมนที่สุดของนิวซีแลนด์ ทั้งเธอและชาวนิวซีแลนด์ทั้งประเทศร่วมเป็นกำลังใจให้ผู้ประสบเหตุและครอบครัวของผู้เคราะห์ร้าย เธอบอกด้วยว่า เหตุกราดยิงหลายแห่งครั้งนี้เป็นความรุนแรงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน