svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ประหารชีวิต! "ผู้กองเหน่ง" ฆ่า ผอ.อ้อย

14 มีนาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

พ่อ - แม่ ญาติพี่น้อง ผอ.อ้อย มุ่งหน้าสู่ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ เพื่อรับฟังคำพิพากษาคดี ที่ลูกสาวตนถูกฆาตกรรมอำพลางศพทิ้งกลางป่า เจ้าหน้าที่คุมเข้มหน้าศาลหวั่นเกิดเหตุร้าย และรักษาความสงบเรียบร้อย

กรณีการหายตัวไปอย่างปริศนาของ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี หรือ ผอ.อ้อย ผู้อำนวยการกองการศึกษา อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค.60 ครอบครัวเข้าแจ้งความที่ สภ.กันทรลักษ์ จนพบเบาะแสว่าก่อนหายตัวไปประมาณ1สัปดาห์ ผอ.อ้อยได้ชวนเพื่อนให้พาไปทวงหนี้กับทหารนายหนึ่ง เป็นจำนวน 500,000 บาท
จากการตรวจสอบทราบชื่อ ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือ ผู้กองเหน่ง โดยมีหลักฐานการยืมเงินเป็นบัตรเอทีเอ็มและสเตจเม้นท์ โดยอ้างว่าถ้าผู้กองเหน่งไม่คืนเงิน ผอ.อ้อยขู่ฟ้องผู้บังคับบัญชาให้ทราบเรื่อง จากข้อมูลการสอบสวนพยานชี้ชัดว่า นายทหารรายนี้เป็นผู้ทำร้าย ผอ.อ้อย โดยมีสาเหตุมาจากไปทวงเงินถึงในค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ก่อนที่จะหายตัวไป พร้อมรถยนต์ และทรัพย์สิน เงิน ทอง จนมาสู่การจับกุมนายทหาร และฝากขังที่เรือนจำจังหวัดกันทรลักษ์ ก่อนที่จะนัดหมายมารับฟังคำพิพากษา
เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 62 ที่ ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายบุญเลิศ นางแหลม อุ่นอ่อน บิดา - มารดา ของ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน ผอ.กองการศึกษาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนตำบลชำ อำเภอกันทรลักษ์ พร้อมด้วยบรรดาญาติๆ ได้เดินทางมาเพื่อเข้าร่วมรับฟังการอ่านคำพิพากษาของศาล ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.81/2561 อัยการศาลจังหวัดกันทรลักษ์ โจทก์

ประหารชีวิต! "ผู้กองเหน่ง" ฆ่า ผอ.อ้อย


โดยมี จำเลย ประกอบด้วย ร้อยเอกศุภชัย ภาโส จำเลยบุคคลที่1 พร้อมด้วย นางสุชาวดี ปทุมอินทร์ จำเลยที่ 2 นายวิฑูรย์ ท้าวแก้ว จำเลยที่3และ นางสาวประกรรษวัต คณะพันธ์ จำเลยที่ 4 ในฐานความผิดต่อชีวิต ความผิดต่อเสรีภาพ ความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม ความผิดเกี่ยวกับเอกสาร ความผิดเกี่ยวกับบัตรอีเล็กทรอนิกส์ ลักทรัพย์ รับของโจร โดยศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาในเวลา 09.00 น. แต่เนื่องจากเป็นคดีที่สำคัญ ประชาชนให้ความสนใจ จึงรอความพร้อมเพรียง นัดใหม่ในเวลา 09.30 น. โดยมี พลตำรวจตรี สุรเดช เด่นธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ได้เดินทางมารับฟังคำพิพากษาด้วย
ก่อนที่จะถึงเวลาศาลอ่านคำพิพากษา รถตู้ของเรือนจำจังหวัดกันทรลักษ์ ได้นำตัวผู้ต้องหา 3 คน เดินทางมาเข้าด้านหลังในห้องควบคุมผู้ต้องหาคดีดำ โดยได้มีการสวมโซ่ตรวนที่ข้อเท้าทั้งสองข้างแก่ผู้ต้องหา โดยเฉพาะ ร้อยเอกศุภชัย ภาโส จำเลยที่1 เจ้าหน้าที่ได้พาเดินเข้าไปในประตูด้านหลัง รอยังห้องควบคุม เพื่อรอที่จะเดินไปที่ห้องพิจารณาคดี ศาลห้ามผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพด้านใน หรือในห้องพิจารณาตามกฎหมายของการคุมครองผู้ต้องหา ขณะเดียวกันบรรดาญาติ รวมทั้งพ่อแม่ ผู้ใหญ่บ้าน ของ ผอ.อ้อย ก็ได้เดินทางขึ้นไปยังห้องอ่านคำพิพากษาบัลลังก์ 4 ซึ่งสื่อมวลชน และญาติบางส่วนรออยู่มี่ด้านหน้าศาล เพื่อรอรับฟังข่าวการอ่านคำพิพากษาด้วยใจที่จดจ่อ เพราะไม่ทราบว่ารูปคดีจะสามารถเอาผิดนายทหารรายนี้ได้หรือไม่

ล่าสุด ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ พิพากษาตัดสินประหารชีวิตสถานเดียว ผู้กองเหน่ง หรือ ร้อยเอก ศุภชัย ภาโส ฆ่า ผอ.อ้อย หรือ นางสาวจุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน ผอ.กองการศึกษาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนตำบลชำ อำเภอกันทรลักษ์ ศรีสะเกษ
ศาลได้ได้ขึ้นนั่งบัลลังค์ เริ่มคำพิพากษา สรุปได้ใจความตามเอกสาร ที่ นายพายับ สนองไทย ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดกันทรลักษ์ ชี้แจงต่อสื่อมวลชน ว่าร้อยเอกศุภชัย ภาโส จำเลยบุคคลที่1 กระทำความผิดฐานหน่วงเหนี่ยว หรือกักขัง ทำให้ผู้ตายปราศจากเสรีภาพในร่างกายและฆ่าผู้ตาย ฐานลอบฝั่งซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือ ส่วนของศพ เอปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย ฐานทำให้เสียหายเคลื่อนย้าย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งศพ ส่วนของศพ โดยไม่มีเหตุอันสมควร ฐานลักทรัพย์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ ฐานลักทรัพย์รถยนต์ สร้อยคอทองคำ หนัก 2 สลึง 1 เส้น แหวนทองคำ หนัก วงละ ครึ่งสลึง 4 วง เงินสด 11,774 บาท และ 1,620บาท ฐานเอาไปเสียซึ่งเอกสารใดของผู้ตายฐานเอาไปเสียหรือยึดไว้ ซึ่งบัตรประจำตัวประชาชน ของผู้อื่น ฐานปลอมเอกสาร ฐานฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ฐานเข้าถึงโดยมิชอบ ซึ่งระบบและข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น ให้ลงโทษประหารชีวิตจำเลยที่ 1 สถานเดียว ยกฟ้องจำเลยที่ 2 4 ในคดีส่วนแพ่ง ให้จำเลยที่1 ชำระค่าปลงศพ และค่าใช้จ่าย อันจำเป็นอย่างอื่นๆ แก่โจทก์เป็นเงิน 300,000 บาท ชำระค่าอาจะไร้อุปการะแก่โจทก์ร่วมที่1 เป็นเงิน 324,000 บาท ชำระค่าขาดไร่อุปการะแก่โจทก์ร่วมที่ 2 เป็นเงิน 216,000 บาท ชำระค่าขาดไร่อุปการะ และขาดแรงงานในครัวเรือน แก่โจทก์ร่วมที่3 เป็นเงิน 216,000 บาท และชำระค่าขาดไร้อุปการะ แก่โจทก์ร่วมที่ 4 เป็นเงิน 1,320,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี
ภายหลังจากที่ศาลมีคำพิพากษาเสร็จสิ้น นายบุญเลิศ ยายแหลม อุ่นอ่อน ซึ่งเป็นบิดา - มารดา นางสมปอง อุ่นอ่อน พี่สาว ผอ.อ้อย และสามี พร้อมด้วยบรรดาญาติๆ พึงพอใจเป็นอันมาก ได้ทยอยเดินออกมาจากศาล โดยแสดงความรู้สึกว่าพอใจมากในคำตัดสินของศาลในวันนี้ ส่วนฝ่ายเขาจะต่อสู้ต่อเช่นไรก็พร้อมที่จะสู้ต่อเช่นกัน

logoline