นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เปิดเผยประเด็นเหล่านี้ หลังการเป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมหลักสูตร "ปฐมนิเทศพนักงานสืบสวนและไต่สวน และนิติกรระดับปฏิบัติการ พ.ศ.2562 ซึ่งเป็นหน้าที่ที่สำคัญ เกี่ยวกับการป้องกันป้องปราบ การกระทำความผิดทุจริตการเลือกตั้ง หรือการกระทำใดที่ขัดแย้งต่อกฎหมายเลือกตั้ง เพื่อไม่ให้มีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งในอนาคต
ประธาน กกต. ยังขอให้พนักงานสืบสวนและไต่สวน และนิติกร ยึดหลักการทำงานที่มีคุณภาพ มีคุณธรรม และมีความรวดเร็ว และต้องปฏิบัติตัวอยู่บนหลักพื้นฐานของพนักงานสืบสวนและไต่สวน ซึ่งภารกิจการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นที่คาดหวังของสังคมที่ทุกคนอยากเห็นการเลือกตั้งที่สุจริต เที่ยงธรรม
ประธาน กกต. ยังเปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบการระดมเงินทุนของพรรคพลังประชารัฐ ว่าขณะนี้อยู่ในระหว่างการส่งเรื่องจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง และส่งไปยังพรรคการเมือง หลังการตรวจสอบเสร็จสิ้นในบางประเด็น ซึ่งคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้จะได้รับเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ / ส่วนการตรวจสอบประเด็นอื่น ๆ ที่มีผู้ร้องเรียนมา อยู่ในระหว่างการตรวจสอบของสำนักงาน กกต. ซึ่งขณะนี้ทราบจากพันตำรวจเอกจรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. แต่เพียงว่าการบริจาค มีเพียงบุคคลที่บริจาคเงินให้กับพรรคพลังประชารัฐ แต่ไม่พบว่าเป็นชาวต่างชาติบริจาค ส่วนจะเป็นข้าราชการหรือไม่ ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบของสำนักงานฯ
ส่วนกรณีที่มีผู้ร้องยื่นหนังสือถึง กกต. ให้ตรวจสอบคุณสมบัติ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐหรือไม่นั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบของสำนักงานเช่นกัน และคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้ จะส่งเรื่องมาถึงคณะกรรมการให้พิจารณา
ประธาน กกต. ย้ำว่า ทุกเรื่องที่ได้รับการร้องเรียนมา / คณะกรรมการได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ไม่อยากให้ล่าช้าไปถึงวันเลือกตั้ง แต่ก็ยอมรับว่าจำนวนเรื่องร้องเรียนนั้นมีเป็นจำนวนมาก
ส่วนการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ที่พบปัญหา / ประธาน กกต. เปิดเผยว่า พบปัญหา 3-4 ประเด็น คือกรณีบัตรหายที่ประเทศจีน ซึ่งก็แน่ชัดแล้วว่าเป็นความเข้าใจผิด / การพิมพ์ชื่อพรรค หรือผู้สมัครผิดพลาดก็เป็นเรื่องของระบบการพิมพ์ แต่ทางผู้จัดการเลือกตั้งก็สามารถแก้ไขได้ทันเวลาก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งปัญหาเหล่านี้ก็ไม่จำเป็นต้องถึงกับให้มีการเลือกตั้งใหม่
นอกจากนี้ ประธาน กกต. ยังเปิดเผยถึงกรณีที่แกนนำอดีตพรรคไทยรักษาชาติ ออกมาเคลื่อนไหว หลังถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค ว่า จะขอเคลื่อนไหวทางการเมืองไปตามจังหวัดต่างๆ เพื่อเรียกร้องขอให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง อยู่ฝั่งประชาธิปไตยและไม่เอาเผด็จการ / ซึ่ง ประธาน กกต. เปิดเผยว่า สถานะความเป็นพรรคการเมืองของไทยรักษาชาติได้สิ้นสุดลงแล้ว การดำเนินการใด ๆ ก็ต้องดูข้อกฎหมายต่าง ๆ ประกอบด้วย ซึ่งมีกฎหมายอื่นๆที่แกนนำจะต้องปฎิบัติตามแม้ว่าไม่เป็นผู้รับสมัครเลือกตั้ง แต่ย้ำว่าการรณรงค์ให้โหวตโนนั้นไม่สามารถทำได้ เพราะเข้าข่าย "จูงใจ ครอบงำ ชี้นำ" ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายการเลือกตั้ง โดยขณะนี้ได้สั่งการให้สำนักงาน กกต. ตั้งคณะกรรมการติดตาม สืบสวน ไต่สวน เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว
กรณีที่มีผู้สังเกตการณ์จากต่างประเทศเข้ามาร่วมสังเกตการณ์ในการเลือกตั้งที่จะมาถึง / ประธาน กกต. เปิดเผยว่า ขณะนี้มีองค์กรเอกชน 2-3 องค์กร เข้ามาติดต่อขอร่วมแล้ว หนึ่งในนั้น คือองค์กร "เอนเฟล" ส่วน "อียู" ยังไม่ได้ประสานมาอย่างเป็นทางการ ซึ่งกรณีเหล่านี้ กกต. ก็ต้องพิจารณาถึงจำนวนขององค์กรที่จะเข้าร่วมให้อยู่ในจำนวนที่เหมาะสม ไม่มากจนเกินไป