svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

สนค. จัดสัมมนาเผยแพร่ผลงานวิชาการ ประจำปี 2562

12 มีนาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ จัดงานสัมมนาเผยแพร่ผลงานวิชาการของ สนค. เมื่อวันพุธที่ 12 มีนาคม 2562 เวลา 09.00 12.30 น. ณ ห้องประชุมฉลาดลบเลอสรรค์ ชั้น 4 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์

นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กล่าวว่า สนค. เป็นหน่วยงานวิชาการของกระทรวงพาณิชย์ มีบทบาทในการชี้นำทิศทางเศรษฐกิจการค้าของประเทศ มีการผลิตผลงานวิชาการด้านเศรษฐกิจการค้าเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะด้านนโยบายให้กับกระทรวงพาณิชย์ และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เพื่อประโยชน์ในการรองรับปรับตัวของทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง การจัดสัมมนาครั้งนี้ มีการนำเสนอผลงานวิชาการ 2 เรื่อง ได้แก่ 


(1) "The M factor ธุรกิจขนาดกลาง โอกาสใหม่ของเศรษฐกิจไทย" โดย นายณัฐ ธารพานิช ศึกษาวิเคราะห์ศักยภาพธุรกิจโดยใช้อัตราส่วนทางการเงินในข้อมูลงบการเงินรายสถานประกอบการ จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ผลการศึกษาพบว่านิติบุคคลขนาดกลางมีแนวโน้มมีความสามารถในการสร้างกำไรจากการลงทุนสูงกว่าธุรกิจขนาดอื่น ๆ โดยเฉพาะในสาขาบริการหลายสาขา สะท้อนถึงศักยภาพของนิติบุคคลขนาดกลางในการส่งเสริมและพัฒนาต่อยอด ซึ่งสามารถทำให้ตรงกับความต้องการของธุรกิจแต่ละรายมากขึ้น ด้วยการเน้นการช่วยขยายตลาด สำหรับนิติบุคคลขนาดกลางศักยภาพที่มีอัตรากำไรสุทธิสูงแต่ยังใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ไม่เต็มที่ และเน้นสร้างมูลค่าเพิ่มสำหรับนิติบุคคลขนาดกลางศักยภาพที่ใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ดีอยู่แล้ว แต่ยังมีสินค้าและบริการที่ยังมีมูลค่าเพิ่มไม่สูงนัก 


รศ.ดร. อาชนัน เกาะไพบูลย์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้วิจารณ์บทความได้ให้ความเห็นว่า งานศึกษานี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการต่อยอดขยายผลเพื่อพัฒนาแนวทางการส่งเสริมธุรกิจให้ตรงตามความต้องการของธุรกิจแต่ละรายอย่างแท้จริง และควรขยายผลไปใช้เครื่องชี้วัดตัวอื่น นอกเหนือจากเครื่องชี้วัดทางการเงิน และกล่าวเสริมว่าภาครัฐควรต่อยอดธุรกิจขนาดกลางที่มีศักยภาพให้กลายเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ และช่วยเหลือผ่องถ่ายแรงงานจากธุรกิจขนาดกลางที่ประสบปัญหาไปยังธุรกิจขนาดกลางที่มีศักยภาพ นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ ผู้ร่วมวิจารณ์บทความได้กล่าวว่าข้อค้นพบของงานศึกษานี้ถือเป็นสิ่งใหม่ที่น่าสนใจ และจะถูกนำไปพัฒนาต่อยอด สำหรับการเฟ้นหาดาวรุ่งใหม่ในการส่งออกต่อไป เพื่อส่งเสริมการขยายตัวอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจไทยให้ได้ในที่สุด 


(2) "3 แนวคิด 7 แนวทาง บุก 10 มณฑลจีน" โดย นายณรงค์ คงสังข์ ศึกษา 10 มณฑลสำคัญของจีน ประกอบด้วย กวางตุ้ง เจียงซู เมืองเซี่ยงไฮ้ ซานตง เจ้อเจียง เมืองปักกิ่ง เหอหนาน เมืองเทียนสิน ฟูเจี้ยน และเสฉวน ที่มีมูลค่านำเข้ารวมคิดเป็นร้อยละ 84.2 ของการนำเข้าทั้งหมดของประเทศจีน และร้อยละ 91.3 ของสินค้าไทยที่ส่งออกไปจีนทั้งหมดก็ส่งไปใน 10 มณฑลนี้ ซึ่งบรรยากาศการค้ามีการแข่งขันเสรีมากขึ้น ประเทศต่างๆ ค้าขายกับจีนเพิ่มขึ้น และจีนให้ความสำคัญกับสร้างเศรษฐกิจให้เข้มแข็ง โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน Belt and Road Initiative และส่งเสริมการค้าออนไลน์ข้ามพรหมแดน ผลการศึกษาพบว่า สินค้าไทยโดยเฉพาะสินค้าเกษตรยังสามารถขยายตลาดในจีนอีกมาก เช่น ข้าว ไก่แช่แข็ง และปลาแช่แข็ง สามารถส่งออกเพิ่มได้อีก 213 52 และ 40 ล้านเหรียญ สรอ. ตามลำดับ ขณะที่สินค้าที่ได้รับความนิยมอยู่แล้ว เช่น ทุเรียน ที่ปัจจุบันมีการส่งออกไปจีน 400 ล้านเหรียญ สรอ. แต่ยังกระจุกตัวอยู่ที่เมืองเซินเจิ้น สามารถขยายการส่งออกไปมณฑลอื่นๆ เช่น เซี่ยงไฮ้ และปักกิ่ง เป็นต้น สำหรับสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีสูง เช่น อากาศยาน และอุปกรณ์สื่อสาร ไทยต้องดึงนักลงทุนจากประเทศที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยีมาลงทุนในประเทศไทยเพื่อเพิ่มโอกาสการส่งออกไปจีน พร้อมทั้งชี้เป้าส่งเสริมการร่วมทุนกับมณฑลที่กำลังพัฒนา เช่น เหอหนาน และเสฉวน ในอุตสาหกรรมยานยนต์และเกษตรแปรรูป ที่จะเพิ่มการส่งออกผ่านห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) มากขึ้น และคาดว่าในปี 2570 ไทยจะส่งออกไปทั้ง 10 มณฑลเพิ่มขึ้นเป็น 1.1 แสนล้านดอลลาร์ สรอ. จากปัจจุบันที่ส่งออกประมาณ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ สรอ. โดยจะเป็นการส่งออกไปกวางตุ้ง เซี่ยงไฮ้ ซานตง และเจียงซู ประมาณ 3.3 3.1 1.6 และ 1.3 หมื่นล้านเหรียญ สรอ. ทั้งนี้ จากผลการศึกษาที่ได้ สนค. ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชน เพื่อให้นำไปใช้ประโยชน์ในการปรับกลยุทธ์และมาตรการส่งเสริมการส่งออกเพื่อขยายตลาดให้สอดคล้องกับศักยภาพการนำเข้าที่แท้จริงของจีนเป็นรายมณฑลอย่างเหมาะสม


ทางด้านผู้วิพากษ์ผลการศึกษา นายเดวิด เล้า ประธานกรรมการ บริษัท ดูฟู้ด จำกัด เสริมว่าจากประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจกับประเทศจีน เพื่อเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้นในการทำธุรกิจกับจีนหรือการค้าในแต่มณฑลควรประสานข้อมูลกับสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ของกระทรวงพาณิชย์ นายวิทิต ธีระมังคลานนท์ อดีตอัครราชทูต (ฝ่ายการพาณิชย์) สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน (ปักกิ่ง) ได้ให้ข้อเสนอแนะว่า ควรเพิ่มเติมในการพูดคุยกับภาคเอกชนเพื่อให้มีข้อเสนอแนะที่สมบูรณ์มากขึ้น ขณะที่การผลิตเพื่อส่งออกของไทยควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานควบคู่กันไป และที่สำคัญที่สุดควรส่งเสริมให้มีการจัดงานแสดงสินค้าในแต่ละมณฑล อย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง

logoline