วันนี้! 6 จังหวัดภาคเหนือ เสี่ยงฝุ่นพิษ

นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่าจากการประสานข้อมูลคุณภาพอากาศกับกรมควบคุมมลพิษ เมื่อวันที่ 9มีนาคม 2562 เวลา05.00 น. พบว่า ภาคเหนือมีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) และปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง เกินค่ามาตรฐาน50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรและดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) เกินค่ามาตรฐาน 100 ใน 6 จังหวัดได้แก่ เชียงราย (ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย) ลำปาง (ตำบลบ้านดง อำเภอแม่เมาะ)แม่ฮ่องสอน (ตำบลจองคำ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน) น่าน (ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่านตำบลห้วยโก๋น อำเภอเฉลิมพระเกียรติ) แพร่ (ตำบลนาจักร อำเภอเมืองแพร่) พะเยา(ตำบลบ้านต๋อม อำเภอเมืองพะเยา) โดยมีค่า PM2.5 ระหว่าง 52 -86 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่า PM10 ระหว่าง 68 75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ AQI มีค่าระหว่าง104 190ซึ่งคุณภาพอากาศในภาพรวมอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพโดยเฉพาะพื้นที่ตำบลบ้านต๋อม อำเภอเมืองพะเยา มีค่า PM2.5อยู่ที่ 86 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่า PM10 อยู่ที่ 75ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ AQI มีค่าระหว่าง 190คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสาน6 จังหวัดภาคเหนือดังกล่าว ดำเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในพื้นที่รวมถึงจัดเจ้าหน้าชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสนับสนุนการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศโดยฉีดพ่นน้ำลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศอย่างต่อเนื่องพร้อมจัดเจ้าหน้าที่ติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศ และประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดอีกทั้งดำเนินมาตรการควบคุมการเผาอย่างเคร่งครัด โดยพื้นที่ป่าไม้เน้นการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ลักลอบจุดไฟเผา พื้นที่เกษตรกรรมให้กำหนดช่วงเวลาจัดระเบียบการเผาและประกาศเขตห้ามเผาตลอดจนขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเผาขยะและเศษวัสดุทางการเกษตร สำหรับประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ที่มีหมอกควันปกคลุมให้หลีกเลี่ยงการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานานรวมถึงใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือหน้ากากอนามัยปิดปากและจมูกทุกครั้งที่ออกนอกบ้านเพื่อป้องกันมิให้สูดดมฝุ่นละอองเข้าสู่ร่างกายสำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควันสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนนิรภัย 1784ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานแก้ไขปัญหาโดยด่วนต่อไปอ