svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

โฉนดค้ำประกันหาย โผล่ในมือนายทุน พร้อมหนี้

08 มีนาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ยิ่งกว่าผีหลอก !! โฉนดที่ชาวบ้านนำไปค้ำประกัน เงินกู้และอยุ่ในครอบครอง ของ เจ้าหน้าที่ กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต บ้านดอนมะจ่าง หาย อยู่ดีๆ โผล่อยู่ในมือนายทุน แถม มีหนี้ค้าง 5 แสน ผู้สื่อข่าว โทรถามความจริง บอกไม่พร้อมให้ข่าว

ยิ่งกว่าผีหลอก !! โฉนดหายทั้งหมู่บ้าน โผล่อยู่ในมือนายทุน มีหนี้ค้าง 5 แสน
วันที่ 8 มี.ค.62 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากชาวบ้านดอนมะจ่าง หมู่ 2 ต.ท่าบ่อสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม จำนวน 17 คน ว่า โฉนดที่ดินที่พวกตนนำไปวางค้ำประกัน เพื่อกู้เงินจากกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านดอนมะจ่าง โดยไม่มีการจดจำนอง ได้หายไปจากที่เก็บรักษาภายในบ้านของเลขานุการกลุ่มออมทรัพย์ฯ โดยเลขาฯอ้างไม่ทราบว่าหายไปไหน และหายไปได้อย่างไร แต่จู่ๆก็มีโฉนดที่ดินอย่างน้อย 2 แปลง โผล่ไปอยู่ในมือของนายทุนต่างจังหวัด พร้อมอ้างว่ามีคนนำมาวางเพื่อกู้เงินไปจำนวน 500,000 บาท เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงจึงเดินทางไปยังบ้านดอนมะจ่าง พบกับชาวบ้านจำนวนดังกล่าว นั่งรอให้รายละเอียดบริเวณ 4 แยก ทางเข้าหมู่บ้าน โดยแต่ละคนเตรียมเอกสารในการกู้ยืมไว้ครบถ้วน

โฉนดค้ำประกันหาย โผล่ในมือนายทุน พร้อมหนี้

หนึ่งในจำนวนผู้ร้องทุกข์มีนายนิกร เกษมสินธุ์ อายุ 69 ปี ข้าราชการครูบำนาญ เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านดอนมะจ่าง ได้เปิดเผยว่ากลุ่มดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 2528 โดยมีผู้ใหญ่บ้านดอนมะจ่างในขณะนั้นร่วมกันก่อตั้งขึ้น เป็นการรวมกลุ่มเพื่อการออมทรัพย์ประจำเดือน เปิดให้ชาวบ้านซื้อหุ้นๆละ 10 บาท จนมีเงินพอกพูนเพิ่มขึ้น จึงมาปล่อยให้สมาชิกในหมู่บ้านกู้ยืม คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาท มีกำหนดส่ง 1 ปี ถ้าหากสมาชิกหาไม่ทันภายใน 1 ปี สามารถยืดการชำระได้ แต่ก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยก่อน ตลอดเวลากว่า 30 ปี ไม่เคยเจอปัญหาลักษณะนี้ จึงถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกมาก

โฉนดค้ำประกันหาย โผล่ในมือนายทุน พร้อมหนี้


นายศรีศักดิ์ บัวสาย อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 23 หมู่ 2 บ้านดอนมะจ่าง เผยว่าปี 2556 ได้นำโฉนดที่ดิน จำนวน 19 ไร่ ขอกู้เงินจากกลุ่มออมทรัพย์ฯ จำนวน 240,000 บาท ปลายปี 2560 เลขาฯผู้เก็บรักษาโฉนดได้มาบอกว่า ใบที่ได้หายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ และพาไปดำเนินการที่ที่ดินอำเภอศรีสงคราม เพื่อขอออกใบแทนใหม่ให้ ปรากฏว่ามีผู้หญิงอ้างว่าชื่อ น.ส.ปรียาภรณ์(ขอสงวนนามสกุล) มีภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร ส่งหนังสือคัดค้านการออกใบแทน โฉนดที่ดินไม่ได้สูญหาย เพราะมีบุคคล 2 คน อ้างชื่อป้าอนงค์กับนางรัตนาภรณ์ นำมาวางค้ำประกันการกู้ยืมเงิน จำนวน 500,000 บาท โดย น.ส.ปรียาภรณ์ฯได้นำโฉนดฉบับจริงมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ด้วย ทำให้ตนเองไม่สามารถขอใบแทนได้ และได้ติดต่อ น.ส.ปรียาภรณ์ฯให้มาเจรจากันที่ที่ดินอำเภอศรีสงคราม เพราะตนไม่ทราบว่าใบที่ไปโผล่อยู่ในมือของนายทุนได้อย่างไร แต่นายทุนคนดังกล่าวไม่ยอมมาพบ ตนจึงแต่งตั้งทนายฟ้องแพ่ง เพื่อให้ส่งมอบใบโฉนดคืน ระหว่างดำเนินการไม่มีกรรมการกลุ่มออมทรัพย์ฯเข้ามาช่วยเหลือแต่อย่างใด

นายศรีศักดิ์ฯกล่าวต่อว่า พวกตนทั้ง 17 ราย ที่นำใบที่ไปวางค้ำในการกู้ยืมเงินจากกลุ่มออมทรัพย์ฯ ได้ไปร้องทุกข์จากหลายหน่วยงาน เช่น ตำรวจ ฝ่ายปกครอง จนถึงจังหวัดฯ แต่ไม่มีอะไรคืบหน้า โดยเฉพาะฝ่ายปกครองอำเภอศรีสงคราม แทบจะไม่ให้การช่วยเหลือ แถมบอกพวกตนว่าไม่ต้องเดินสายร้องเรียนที่ไหน และไม่ต้องมาหาเขาอีก เพราะเปลืองกาแฟ
ด้าน นางวันไท เหง้าน้อย อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 98 หมู่ 2 นำโฉนดที่ดิน จำนวน 1 ไร่เศษ วางค้ำกู้เงินไป 50,000 บาท ชำระหมดแล้วทั้งต้นและดอกเมื่อปี 2561 ซึ่งก่อนหน้านี้เดือนมีนาคม 61 ตนได้ไปหาเลขาฯกลุ่มออมทรัพย์ฯ ขอถ่ายเอกสารใบที่ดังกล่าว เพื่อจะนำไปขึ้นทะเบียนเกษตรกร ปรากฏว่าเลขาฯบอกใบที่ดินของสมาชิกทั้งหมดหายยกเก๊ะ จำนวน 17 ฉบับ ตนจึงรีบนำเรื่องมาเล่าให้สมาชิกคนอื่นๆทราบ แต่ก็ถูกเลขาฯตามมาต่อว่าถึงบ้าน อ้างมีญาติเป็นนายตำรวจ ใครมาวุ่นวายจะจัดการให้เรียบ พร้อมท้าทายเอาใครมาก็ไม่กลัวทั้งสิ้น

โฉนดค้ำประกันหาย โผล่ในมือนายทุน พร้อมหนี้


ขณะที่นายศราวุธ คะปัญญา อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 88 หมู่ 2 แสดงหลักฐานเป็นใบบันทึกการแจ้งความร้องเรียน ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม การฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน ตำรวจภูธรภาค 4 จังหวัดขอนแก่น ได้ให้ถ้อยคำกับพนักงานสอบสวน ว่า เลขาฯกลุ่มออมทรัพย์ฯ มีพฤติการณ์ฉ้อโกง โดยวันที่ 5 พ.ค.2557 ได้นำใบที่ดิน จำนวน 4 ไร่เศษ ไปกู้ยืมเงินกับกลุ่มออมทรัพย์ฯ จำนวน 100,000 บาท ต่อมาตนได้มาขอถ่ายเอกสารเพื่อนำไปขึ้นทะเบียนเกษตรกร เลขาฯจึงบอกว่าใบโฉนดหาย ไม่นานมีนายทุนคนหนึ่งเดินทางมาจากจังหวัดขอนแก่น ถือใบถ่ายเอกสารโฉนดที่ดินมาหาตนถึงบ้าน ถามว่าจะขายเท่าไหร่ ตนงงหนักเพราะไม่เคยนำใบที่ไปจำนำหรือขายกับใคร นอกจากวางค้ำประกันที่กลุ่มออมทรัพย์ฯเท่านั้น นายทุนคนดังกล่าวบอกมีคนเอามาเร่ขาย เพื่อความมั่นใจจึงมาถามเจ้าของที่ด้วยตนเอง เมื่อทราบความจริงนายทุนก็เดินทางกลับไป ตนจึงมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน
นอกจากนี้ยังมีผู้เจอปัญหาเดียวกันอีกหลายคน และผู้สื่อข่าวต้องการข้อมูลทั้งสองด้าน จึงติดต่อเลขาฯกลุ่มออมทรัพย์ฯ มาชี้แจงกรณีดังกล่าว ได้รับคำตอบว่ากำนันไม่ให้รายละเอียด และไม่พร้อมที่จะให้ข่าวใดๆทั้งสิ้น

logoline