ด้านผลตอบแทนที่ 13 หมูป่าจะได้รับนั้น ไม่ต่ำกว่า 2-3 ล้านบาท ต่อคนนอกจากนี้ยังมีผลประโยชน์ที่จะแบ่งปันตอบแทนให้องค์กร หน่วยงาน และมูลนิธิต่างๆที่เข้ามาช่วยเหลือหมูป่าด้วยซึ่งสิทธิในการสร้างภาพยนตร์เป็นของสิทธิของบริษัท SK GLOBAL ENTERTAINMENT แต่เพียงผู้เดียวโดยเป็นข้อมูลจากการพูดคุย 13 หมูป่าซึ่งถือเป็นสิทธิตลอดชีวิต นั่นหมายความว่า "หากใครสนใจสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับหมูป่าสามารถทำได้แต่ที่มาของข้อมูลต้องไม่ออกจากปาก 13 หมูป่า ตลอดจน 13หมูป่า ไม่มีสิทธิให้สัมภาษณ์ออกสื่อถึงเรื่องราวในถ้ำหากต้องการใช้ข้อมูลต้องเจรจากับบริษัทที่ได้สิทธิ์เอง"
สำหรับบริษัท เอสเค โกลบอล เอนเตอร์เทนเมนท์ เป็นบริษัทที่เกิดจากการควบรวมกิจการของซิดนีย์ คิมเมล เอนเตอร์เทนเมนท์ กับอิวาน โฮ พิกเจอร์ โดยผลิตสื่อคุณภาพเยี่ยม ที่เข้าถึงทั้งระดับโลกและตลาดท้องถิ่น มีสาขาในลอสแองเจลิส นิวยอร์ค ฮ่องกง โซล และปักกิ่ง
ในเว็บไซท์ของเอสเค โกลบอล เอนเตอร์เทนเมนท์ระบุว่า เลือกโครงการโดยมุ่งเน้นไปที่ตลาดต่างประเทศ สนับสนุนการพัฒนาด้านต่างๆ ร่วมกับสตูดิโอภาพยนตร์ด้านการเงิน การผลิตสื่อคุณภาพสูง ผลิตหนัง รายการเรียลลิตี้ และสื่อดิจิตอล โดยกระจายไปตามสตูดิโอหุ้นส่วนต่างๆที่มีการเผยแพร่ทั่วโลก ผ่านทางคู่ค้าและแพลตฟอร์ม ทุกภูมิภาคทั่วโลก
เอสเค โกลบอล เอนเตอร์เทนเมนท์ ก่อตั้งเมื่อปี 2559 โดยการร่วมทุนของมหาเศรษฐี ซิดนีย์ คิมเมล กับ โรเบิร์ต เฟรดแลนด์ โดยบริษัทมีประสบการณ์ในการผลิตสื่อที่ยาวนานในนามของเอสเคอีกับ อิวานโฮ พิคเจอร์ ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ถือกำเนิดภายใต้ชื่อ กรีนสตรีทฟิล์ม เมื่อ20 ปีที่แล้ว การควบรวมกันนี้ ทำให้มีทุนในการผลิตมหาศาล และมีประสบการณ์ในการผลิตสารคดีมาแล้วมากกว่า75 เรื่อง ซึ่งนับว่าเป็นบริษัทที่มีประวัติยาวนานในการทำงานร่วมกันกับผู้สร้างภาพยนตร์ชั้นนำและมีความสามารถระดับโลก