อดีต ส.ว.ชี้ ผบ.ทบ.ประชุมหน่วยขึ้นตรง ต้องการแสดงแสนยานุภาพ

วันที่ 7 มีนาคม 2562 นายดิเรก ถึงฝั่ง อดีต ส.ว.นนทบุรี และนายสุขุม นวลสกุล อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง ได้ให้ข้อคิดเห็นถึงกรณีเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่กองบัญชาการกองทัพบก ได้มีการจัดประชุมวาระพิเศษ โดยมี พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) ครั้งที่ 2/2562 ซึ่งก็มีผู้บังคับหน่วยระดับกองพัน ระดับผู้บังคับการกรม ผู้บัญชาการกองพล ผู้บัญชาการกองพลทหารบก พร้อมนายทหารระดับสูงทั่วประเทศกว่า 796 นาย มาประชุมรวมตัวกันบริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 หน้าหอประชุมกิตติขจร ในท่าคุกเข่า พร้อมร่วมกันปฏิญาณตนกระหึ่มกองบัญชาการกองทัพบก ในช่วงที่ใกล้จะมีการเลือกตั้ง จะทำให้บรรยากาศของบ้านเมืองแย่ลง ในช่วงกระแสที่กำลังลุ้นกันว่าจะมีเลือกตั้งหรือไม่ ว่า

ข้อแรก จริงๆ แล้วถือเป็นเรื่องปกติกับการเรียกประชุมของทหาร แต่บังเอิญว่ามันอยู่ในช่วงที่กำลังจะมีการเลือกตั้ง ข้อที่สอง อาจส่วนหนึ่งที่ทำให้นักการเมืองมองได้ว่า เป็นการแสดงแสนยานุภาพอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อให้นักการเมืองได้เห็นว่า ยังมีพลังอำนาจในส่วนนี้อยู่ คล้ายกับเป็นการข่มขู่ แต่ว่าพฤติกรรมที่ท่านได้เรียกประชุมก็ไม่ได้มีการพูดถึงนักการเมือง เพราะฉะนั้นจะว่าข่มขู่ก็คงไม่ใช่ แต่อาจจะสะท้อนภาพให้คนเห็นว่า ทหารยังเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอยู่ ยังคงมีพละกำลังที่มั่นคงอยู่ และข้อที่สาม คนทั่วไปอาจจะมองว่า ถ้าเกิดมีเหตุการณ์พลิกล็อคขึ้นมา อาจจะมีการปฏิวัติรัฐประหารอีกก็ได้

"จากการคาดการณ์ในลักษณะนี้ทุกคนต่างก็คาดว่า เมื่อการเลือกตั้งครั้งนี้เสร็จสิ้น บ้านเมืองก็คงไม่ได้เข้าสู่ภาวะปกติ เพราะทุกอย่างจะเข้าไปสู่ภาวะที่มาจากการไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ที่จะทำให้เกิดการโจมตีอย่างหนัก เมื่อเข้าสู่ระบบรัฐสภาก็จะมีกฎหมายคอยคุ้มครอง ส่วนนี้ขึ้นอยู่ว่าใครจะทนได้ไม่ได้แค่ไหนก็เท่านั้น เพราะฉะนั้น การแสดงแสนยานุภาพลักษณะแบบนี้ นักการเมืองกับคนทั่วไปก็จะมองว่า อาจเป็นการแสดงกำลังในการปรามกลุ่มบุคคล ซึ่งจะเป็นสิ่งที่คนทั่วไปไม่เห็นด้วย และต้องยอมรับว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ แม้แต่พรรคพลังประชารัฐเอง แกนนำของพรรคยังบอกว่า เขาร่างมาเพื่อพวกเรา ซึ่งคำพูดที่พูดไปอย่างนี้ได้ส่งผลเสียอย่างมากต่อตนเอง และส่วนรวม

เพราะทุกคนต่างเห็นกันอยู่แล้วว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่ได้สร้างขึ้นมาจากสิ่งที่ถูกต้อง กับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย แต่กลับจะเป็นการสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในบางส่วน ซึ่งตนก็เคยพูดมาตั้งแต่ต้น และกับการออกมาของทหารในช่วงนี้ตนมองว่า อยากให้ทหารอยู่ปกติดีกว่า ที่จะมีการแสดงพลังอะไรออกมาในช่วงนี้ เพราะเป็นช่วงที่กำลังจะก้าวเข้าไปสู่การเป็นระบอบประชาธิปไตย ซึ่งทุกคนกำลังรอกันอยู่ ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายต่างๆนั้น ให้ค่อยว่ากันเมื่อเข้าสู่การเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ โดยให้ระบบรัฐสภาเป็นตัวดำเนินการ" นายดิเรก กล่าว

ด้านนายสุขุม กล่าวว่า อาจเป็นการแสดงให้เห็นว่าอย่ามาข้องแวะกับทหารมากนัก อย่ามาเสียดสีดูหมิ่นทหาร  เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีของทหาร ซึ่งแน่นอนว่า อาจจะทำให้บรรยากาศทางการเมืองในบ้านเมืองเสียไปบ้าง ผมมองว่าทหารควรที่จะพยายามเข้าใจหน่อยว่า ในทางการเมือง การหาเสียง เรื่องของนโยบายอาจจะกระทบกระเทือนหน่วยงานราชการต่างๆ ไปบ้างซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อทำอย่างนี้ออกมาแล้ว ก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่ทำ ได้ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของผู้คน

เพราะก่อนหน้านี้ เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นในยุคที่ นายกฯ เคยเป็นทหารมาก่อน ในสมัยของคุณเปรม ก็เคยเกิดการกระทำในรูปแบบทำนองนี้ ทำให้ผู้คนกังวลว่าจะเกิดการปฏิวัติหรือรัฐประหารอีกหรือเปล่า ซึ่งตนมองว่าตอนนี้อย่างไรการเลือกตั้งก็เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ยากที่จะมีใครมาขวางการเลือกตั้งได้แล้ว เพราะว่าจิตใจของคนต่างก็ไปจดจ่ออยู่กับการเลือกตั้ง และในวันนี้หากการเลือกตั้งขยับหรือเกิดอะไรขึ้นก็แล้วแต่ รัฐบาลจะเสียเครดิตเป็นอย่างมาก