(คลิปข่าว) วิเคราะห์.....ผลคำวินิจฉัยศาล รธน.คดียุบ "ไทยรักษาชาติ"

รัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดว่าต้องเป็นการทุจริต จึงจะเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้ง หรือตัดสิทธิ์เลือกตั้ง "ตลอดชีวิต" ไม่สามารถดำรงตำแหน่งทางการเมืองและกรรมการองค์กรอิสระได้ตลอดไป แต่กรณีนี้ไม่ใช่กรณีทุจริต นักกฎหมายบางคนจึงตีความว่าน่าจะตัดสิทธิ์ 10 ปีความชัดเจนในเรื่องนี้คงต้องรอฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ หากสั่งยุบพรรค ก็จะรู้ว่าตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคกี่คน คนละกี่ปีอย่างไรก็ตามมี 3 แนวทางที่อาจเป็นไปได้คือ

1.กรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี แล้วสามารถจัดตั้งพรรคใหม่ได้2.ถูกตัดสิทธิตลอดชีวิต3.เป็นไปได้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาระยะเวลาที่ถูกตัดสิทธิเติมลงไป เพราะใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ไม่ได้ระบุเวลาไว้

ประเด็นที่ต้องตั้งคำถาม คือ ผู้สมัคร ส.ส.ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย แต่ทำให้เสียสิทธิทางการเมืองไป และไม่สามารถไปลงสมัครหรือสังกัดพรรคใหม่ได้ทัน จะเยียวยาผู้สมัครอย่างไร เพราะที่ผ่านมาบางกรณีเป็นความผิดเฉพาะบุคคล แต่นำไปสู่การยุบพรรคง่ายเกินไป

เมื่อศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องของ กกต.ขอให้พิจารณาและมีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ ขั้นตอนของศาลรัฐธรรมนูญ ในการพิจารณาคดีเป็นอย่างไรเริ่มจากขั้นตอนแรก เมื่อศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้พิจารณา ผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้จะมี 2 ฝ่าย คือ "ผู้ร้อง" หมายถึง กกต. กับ "ผู้ถูกร้อง" หมายถึง พรรคไทยรักษาชาติ ศาลจะส่งสำเนาคำร้องไปให้ "ผู้ถูกร้อง" จากนั้นฝ่าย "ผู้ถูกร้อง" คือพรรคไทยรักษาชาติ ต้องทำคำชี้แจงส่งมายังศาล ซึ่งคดีนี้ ศาลให้เวลา 7 วัน คือภายในวันที่ 21 กุมภาพันธ์

ขั้นตอนที่ 2 เมื่อ ผู้ถูกร้อง ส่งความเห็นมาแล้ว ศาลดูแล้วเห็นว่าพยานหลักฐาน "เพียงพอ" ที่จะวินิจฉัยได้ ก็จะนัดวันประชุมคณะตุลาการ เพื่อวินิจฉัยคดี วิธีนี้เราเรียกว่าขึ้น "ทางด่วน" ไม่ติดไฟแดง ใช้เวลาสั้นที่สุด คดีจบได้เร็ว แต่หากศาลดูแล้ว เ้ห็นพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอ ก็จะนัดไต่สวนพยานทั้งสองฝ่าย อันนี้เรียก "ทางธรรมดา" จนกว่าศาลจะได้ข้อเท็จจริงเพียงพอ ที่จะทำคำวินิจฉัยขั้นตอนที่ 3 นัดฟังคำวินิจฉัย โดยผลของคำวินิจฉัยให้มีผลในทันทีที่อ่านจบ