(คลิปข่าว) ยันควบรวมทีเอ็มบี-ธนชาต ไม่กระทบลูกค้าและพนักงาน

หลังธนาคารทหารไทย (TMB) และธนาคารธนชาต (TBANK) ลงนามในบันทึกข้อตกลงแบบไม่มีผลผูกพัน ทางกฎหมาย ระหว่าง  ING Group ธนาคารธนชาต บมจ.ทุนธนชาต ธนาคารทหารไทยและ The Bank of Nova Scotia เพื่อกำหนดกรอบความเข้าใจและหลักการสำหรับการเจรจาร่วมกันต่อไปเกี่ยวกับการเข้าทำธุรกรรมต่าง ๆ โดยเมื่อการรวมกิจการเสร็จสมบูรณ์ ทาง ING Group และธนาคารธนชาต จะเป็นผู้ถือหุ้นที่มีสัดส่วนมากกว่า 20% ขณะที่กระทรวงการคลังจะยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 

รมต.คลัง อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ ระบุ คลังเตรียมเงินประมาณ 1 หมื่นล้านบาทในการใช้สิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มทุนเพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นในแบงก์ใหม่หลังการควบรวมกิจการระหว่างธนาคารทหารไทย หรือ ทีเอ็มบี กับธนาคารธนชาต โดยแหล่งเงินส่วนหนึ่งจะนำมาจากกองทุนวายุภักษ์ ซึ่งจะทำให้กระทรวงการคลังถือหุ้นตามที่ได้รับจัดสรร แต่จะลดลงจากปัจจุบันที่คลังถือหุ้นในธนาคารทหารไทยประมาณ 25% 

การควบรวมกิจการดังกล่าว จะทำให้แบงก์ใหม่ มีความแข็งแกร่งมากขึ้น และมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ซึ่งจะกระทรวงการคลังก็จะได้รับประโยชน์ในฐานะผู้ถือหุ้นที่จะดีขึ้นด้วย ส่วนเรื่องชื่อธนาคารใหม่ยังไม่ทราบเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การควบรวมกิจการจะเสร็จทันก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับกระบวนการดำเนินงานของทั้ง 2 ฝ่ายว่าจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้หรือไม่

ด้านประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาต ประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ระบุ หลังการควบรวม ธนาคารทั้ง 2 แห่งจะไม่มีการลดจำนวนพนักงาน แต่จะปรับเปลี่ยนตำแหน่งการทำงานของพนักงานที่มีความซ้ำซ้อนกัน มาจัดสรรให้มีความเหมาะสมมากขึ้น และจะฝึกทักษะการทำงานของพนักงานให้มีความสามารถและเชี่ยวชาญมากขึ้น โดยปัจจุบันธนาคารธนชาต มีพนักงานจำนวน 12,000 คน และธนาคารทหารไทยมีจำนวนกว่า 8,000 คน ซึ่งตามปกติในแต่ละปีจะมีพนักงานลาออกและเกษียณอายุใน 2 ธนาคารประมาณ 2,000 ต่อปี ดังนั้น อัตราพนักงานที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 15,000 คนต่อปี ส่วนจำนวนสาขาของธนาคารธนชาตมี 512 สาขาและธนาคารทหารไทยมี 400 สาขา อาจจะรวมสาขาที่ซ้ำซ้อนเข้าด้วยกัน พร้อมปรับเปลี่ยนสถานที่ตั้ง ขนาด รูปแบบรองรับลูกค้าให้ตรงจุดมากขึ้น

ด้านประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย ปิติ ตัณฑเกษม ยืนยันว่า ระหว่างนี้ ทั้ง 2 ธนาคารจะให้บริการโดยใช้ชื่อเดิมต่อไป ขณะที่ลูกค้าของทั้ง 2 แห่งยังสามารถใช้บริการได้ตามปกติ โดยยืนยันลูกค้าจะไม่ได้รับผลกระทบจากการควบรวมครั้งนี้แต่อย่างใด ธนาคารให้ความสำคัญสูงสุดในการขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าให้เกิดการพัฒนาและการเติบโตอย่างมีคุณภาพ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และประสบการณ์ทางการเงินที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า