svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"เลขาฯกกต." ชี้ ผู้สมัครส.ส.ตรัง พรรคอนาคตใหม่ ยังไม่ขาดคุณสมบัติ เหตุยังไม่ถูกจำคุกจริง

28 กุมภาพันธ์ 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"เลขาฯกกต." ชี้ผู้สมัครส.ส.ตรัง อนาคตใหม่ ยังไม่ขาดคุณสมบัติ เหตุยังไม่ถูกจำคุกจริง เตือนร้องเท็จ เข้าข่ายหมิ่นประมาทมีโทษจำคุก เตรียมส่งกกต.ลงมติ คุณสมบัติแคนดิเดตนายกฯ "บิ๊กตู่"

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) -28 ก.พ.62 พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. กล่าวถึงกรณีที่ผู้สมัครส.ส.เขต 3 จังหวัดตรัง พรรคอนาคตใหม่ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับตัวตามหมายจับในคดีฉ้อโกงหลังไม่ไปรายงานตัวต่อศาลว่า กรณีนี้ผู้สมัครยังไม่ขาดคุณสมบัติ เนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สุด โดยตามมาตรา 98 (6) ของรัฐธรรมนูญระบุว่าต้องมีการพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังโดยหมายของศาลจึงถือว่าขาดคุณสมบัติของการเป็นผู้สมัคร
ส่วนกรณีหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.)นั้น เลขาฯกกต.กล่าวว่าอาจจะส่งผลให้บัตรเสียเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากในบัตรเลือกตั้งยังมีช่องกาให้พรรคทษช.ในเขตที่ส่งผู้สมัครอยู่ หากประชาชนไปเลือกถือว่าเป็นบัตรเสีย กรณีนี้ถ้าหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคทษช.จะต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่าถ้าหากเลือกกาผู้สมัครของพรรคทษช.ถือว่าเป็นบัตรเสียทันที เช่นเดียวกับผู้สมัครของพรรคอื่นๆที่ขาดคุณสมบัติการเลือกตั้งด้วย
เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ขอให้กกต.เปิดเผยรายชื่อกรรมการประจำหน่วยก่อนการเลือกตั้ง 15 วัน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า โดยปกติเป็นเรื่องของกกต.จังหวัดเป็นผู้แต่งตั้ง ซึ่งก็ทราบกันโดยทั่วไปอยู่แล้ว ส่วนที่มีการห่วงว่าจะมีการฮั้วกันระหว่างกรรมการประจำหน่วยและผู้สมัครในการนับคะแนนนั้น ในวันดังกล่าวมีการสังเกตการณ์และจับตามองจากหลายฝ่าย หากเห็นความไม่ชอบมาพากลก็จะมีการคัดค้านระหว่างนั้นอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้กกต.ไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดตามหน่วยเลือกตั้งเหมือนการเลือกส.ว. เพราะการเลือกตั้งส.ส มีหน่วยเป็นจำนวนมาก
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ในขณะนี้ได้มีผู้ร้องเรียนเรื่องการเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก และอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งต้องมีการสอบปากคำในเรื่องที่ร้อง โดยจะดูว่ามีมูลมากพอที่จะตรวจสอบต่อไปได้หรือไม่ ซึ่งอยากจะเตือนผู้ที่ร้องว่าถ้าร้องในเรื่องที่ไม่เป็นความจริงก็เข้าข่ายหมิ่นประมาทด้วยความเท็จ ซึ่งจะมีโทษจำคุก และถ้าเรื่องที่มาร้องต่อกกต.ไม่เป็นความจริง ก็จะเข้าข่ายร้องเท็จอีก ซึ่งมีลักษณะนี้ทุกครั้งในการเลือกตั้ง กกต.จะต้องดำเนินคดีเป็นจำนวนมาก ดังนั้นก่อนที่จะมาร้องก็ต้องพิจารณาให้ดี
เมื่อถามถึงความคืบหน้าการพิจารณาคำร้องการยุบพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จากกรณีเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายก ทั้งที่ขาดคุณสมบัติ และการจัดโต๊ะจีนระดมทุนของพรรค ว่า อยู่ระหว่างการดำเนินการใกล้ที่จะให้นายทะเบียนพรรคการเมืองเสนอต่อกกต.พิจารณา แต่กรณีของการระดมทุนนั้น ไม่ใช่การตรวจสอบเพื่อนำไปสู่การยุบพรรค ซึ่งเป็นการตรวจสอบว่าเงินที่ได้รับจากการระดมทุนนั้นมีเอกสารครบถ้วนถูกต้อง และรับมาจากผู้บริจาคที่สามารถบริจาคได้ตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ซึ่งเราจะดูเอกสารหลักฐานตามนี้ แต่เราจะไม่ไปตรวจสอบว่าผู้ที่แจ้งความประสงค์จะสนับสนุนแล้วไม่สนับสนุนเป็นเพราะเหตุใด เป็นผู้ที่ขาดคุณสมบัติหรือไม่ จะตรวจสอบเฉพาะได้เงินสนับสนุนมาเท่าไหร่ มีเอกสารยืนยันถูกต้องหรือไม่เท่านั้น
ส่วนกรณีที่มีการร้องว่านายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพปชร. ขาดคุณสมบัติการเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคเนื่องจากเป็นหัวหน้าพรรคก่อนการสมัครเป็นสมาชิกพรรค ขัดต่อข้อบังคับพรรค และกฎหมายพรรคการเมืองนั้น ว่า กกต.ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และกฎหมายแล้ว มีมติว่านายอุตตม มีคุณสมบัติครบถ้วน และได้มีการแจ้งให้ผู้ร้องทราบแล้ว

logoline