(คลิปข่าว) อดีตครูป่วย โอด บริษัทประกันไม่รับผิดชอบ

นักข่าวเนชั่นทีวี ได้รับการติดต่อจาก นายสุพิน ทับสาร อายุ 57 ปี อดีตข้าราชการครู ซึ่งขณะนี้ป่วยทุพพลภาพถาวร จากสาเหตุเส้นเลือดในสมองแตก ไม่สามารถเดินได้ต้องนั่งวีลแชร์ โดยพบว่า นายสุพิน อาศัยอยู่ในบ้านเช่า ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมือง เชียงใหม่ และเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ว่า เดิมเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนห้วยไม้หก อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ในเดือน มิถุนายน 2552 ได้กู้เงินในโครงการสวัสดิการเงินกู้ฌาปนกิจกิจสงเคราะห์ช่วยเหลือเพื่อนครูและบุคคลากรทางการศึกษา ( ช.พ.ค.) ซึ่งทำร่วมกับธนาคารออมสิน ปล่อยสินเชื่อให้สมาชิกในโครงการเกื้อกูลผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา กู้จำนวน 600,000 บาท เพื่อนำมาใช้จ่ายในครอบครัว และได้ทำประกันพ่วง กับบริษัทประกันภัย ตามเงื่อนไขธนาคาร
ครูสุพิน เล่าวว่า ช่วงปิดเทอมเดือนตุลาคม 2552 ได้เดินทางกลับบ้านเกิดที่สระบุรี และเกิดป่วยเส้นเลือดในสมองแตก เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสระบุรี หลังจากนั้นกลับมารักษาตัว ที่จ.เชียงใหม่ แต่พบว่าเป็นอัมพฤฒไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องใช้วีลแชร์ จึงติดต่อไปที่บริษัทประกัน พร้อมแนบใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลวิหารแดง จ.สระบุรี แต่กลับได้รับการปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่า กรณีที่จะจ่ายต้องเป็นผู้ป่วยติดเตียง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เท่านั้น
ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจ.เชียงใหม่ แล้ว แต่เรื่องไม่คืบ ครั้นไปขอความช่วยเหลือจาก อปท.ในท้องที่ ก็ได้รับการปฏิเสธ เนื่องจากชื่อตามทะเบียนบ้านอยู่ที่จังหวัดสระบุรี จึงไม่ได้รับเบี้ยผู้พิการ และเงินช่วยเหลือใดๆ หนำซ้ำวีลแชร์ที่ใช้อยู่ก็เริ่มชำรุดใช้งานได้ไม่เหมือนเดิม ได้ทำเรื่องของวีลแชร์สำหรับผู้พิการใหม่ไว้ที่สถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ ซึ่งทางสถาบันแจ้งว่าต้องรอตามคิว
ด้านนายกร กาญจน์กนกพร ประธานชมรมข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เป็นหนี้วิกฤต จังหวัดเชียงใหม่ บอกว่า การกู้ ช.พ.ค.ที่ต้องทำประกันเงินกู้ผ่านบริษัทประกัน นั้น ส่วนตัวก็เป็นผู้กู้เงินดังกล่าวด้วยเช่นกัน และเกิดความกังวลว่า หากเจ็บป่วยจนไม่สามารถทำงานเลี้ยงชีพได้ บริษัทที่ทำประกันไว้จะจ่ายสินเชื่อให้หรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยเห็นกรมธรรม์ประกันภัยและสุขภาพที่ทำไว้กับบริษัทประกันเลย
สำหรับกรณีนายสุพิน ที่กำลังได้รับความเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ อยากเรียกร้องให้ บริษัทประกันภัย ดำเนินการตามที่ได้ระบุไว้ในกรมธรรม์ เบี้ยประกันก็เก็บไปแล้วต้องออกมารับผิดชอบผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปที่บริษัททิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เพื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวทางโทรศัพท์ ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ทำหนังสือถึงบริษัท แจ้งประเด็นที่ต้องการทราบเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบพิจารณาตอบประเด็นที่ต้องการทราบต่อไป